เอเชีย เวลท์ คาดปัจจัยกรีซกดดันตลาดหุ้นโลก มีโอกาสจะล้มละลาย และต้องออกจากยูโรโซนมีสูงมาก ต้องรอดูการตัดสินใจจากที่ประชุมผู้นำสุดยอดของสหภาพยุโรปในวันอังคารที่ 7 กรกฎาคม ทั้งนี้ มองกรอบ SET Index ที่ 1,472-1,510 จุด
ศิวะศริยานนท์ กรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด กล่าวว่า ปัจจัยที่ยังกดดันตลาดสัปดาห์นี้ คือ ปัญหาหนี้กรีซ หลังจากผลการลงประชามติเมื่อสุดสัปดาห์ออกมาว่า ประชาชนชาวกรีซร้อยละ 61 ปฏิเสธเงื่อนไขของเจ้าหนี้เรื่องเพิ่มการตัดลดค่าใช้จ่าย เพื่อแลกต่อความช่วยเหลือกรีซ ทำให้โอกาสที่กรีซจะล้มละลาย และต้องออกจากยูโรโซนมีสูงมาก ต้องรอดูการตัดสินใจจากที่ประชุมผู้นำสุดยอดของสหภาพยุโรปในวันอังคารที่ 7 กรกฎาคมนี้ ว่าจะตัดความช่วยเหลือกรีฃในทันที หรือจะยังคงจะเจรจากันใหม่อีก ถึงแม้ว่าเราเชื่อว่าการที่กรีซล้มละลายไปไม่น่าจะทำให้ประเทศอื่นในยุโรป และระบบการเงินโลกจะมีปัญหาไปด้วย แต่ผลทางด้านจิตวิทยาจะยังคงกดดันตลาดหุ้นอยู่ต่อไป ในทางตรงข้าม หากผู้นำยุโรปตัดสินใจจะช่วยกรีฃต่อไปตลาดน่าจะกลับมาเดินหน้าได้
สำหรับตลาดหุ้นจีนในช่วงสุดสัปดาห์กลับมีข่าวบวกเป็นอย่างมาก เมื่อทางการ และเอกชนผนึกกำลังกันออกมาตราการพยุงหุ้นอย่างขนานใหญ่ อันได้แก่ การที่โบรกเกอร์จะเข้าฃื้อหุ้น 1.2 แสนล้านหยวน ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 6 กรกฎาคม เสริมด้วยกองทุนรวม 89 บริษัทจะเข้าฃื้อหุ้นด้วยเช่นกัน ทางการจีนจะหยุดการนำหุ้น IPO เข้าตลาดแบบไม่มีกำหนด และกลับมาให้มีการปล่อยสินเชื่อเพี่อการฃื้อหุ้นฃึ่งเป็นการคลายความกดดันต่อตลาดหุ้นในภูมิภาค หลังจากที่ผ่านมา 2-3 สัปดาห์ ตลาดหุ้นจีนถูกเทขายจากนักลงทุนอย่างหนัก และต่อเนื่อง
ด้านสหรัฐฯ ที่ตัวเลข Non-farm payroll ออกมาต่ำกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้ตลาดกลับมา คาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไปก่อน
ส่วนปัจจัยในประเทศ ตัวเลข NPL ของธนาคารพาณิชย์ที่ทยอยประกาศออกมา ทำให้นักวิเคราะห์อาจปรับเป้าราคาหุ้นธนาคารฯ บางแห่ง ซึ่งทำให้ตลาดหุ้นไทยถูกกดดัน
อย่างไรก็ดี ในส่วนของ Trading Idea ของ บล.เอเชีย เวลท์ ในสัปดาห์นี้ แนะนำลงทุนในหุ้น SYMC ของบริษัท ซิมโฟนี่ คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการวงจรสื่อสารความเร็วสูงภายในประเทศ โดยเป็นรายแรกในไทยที่ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการประเภทมีโครงข่ายเป็นของตนเองจาก กทช. ภายใต้แบรนด์ “Symphony”
“SYMC ได้รับประโยชน์จากการเติบโตของโครงข่ายโทรคมนาคมของประเทศ ซึ่งในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา จากผลสำรวจของสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน SYMC จะมีกำไรเติบโตเฉลี่ยราว 20% ในปีนี้ และปีหน้า โดยจะมีโครงการสำคัญนับจากนี้ คือ การวางสายเคเบิลใต้น้ำเชื่อมโยงมาเลเซีย และกัมพูชา และการขยายธุรกิจในกลุ่มประเทศอาเซียน ทั้งนี้ SYMC มี P/E ratio ที่ระดับ 18 เท่า มี P/B value ที่ 0.78 เท่า และมี Dividend Yield สูงที่ระดับ 4% ทำให้เป็นหุ้นที่น่าลงทุน ทั้งนี้ ราคาเป้าหมาย Consensus ที่ 14 บาท”
ส่วนสัปดาห์นี้ บล.เอเชีย เวลท์ มองกรอบ SET Index ที่ระดับ 1,472-1,510 จุด และแนะนำให้เน้นลงทุนหุ้น Defensive ที่จ่ายเงินปันผลดี มี P/B value ที่ต่ำ เพื่อลดความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน