หุ้นไทยปิดบวก 0.63 จุด เจอแรงขายทำกำไร หลังรับรู้ข่าวเฟดยังไม่รีบขึ้น ดบ. อีกทั้งยังไร้ปัจจัยบวกใหม่ที่จะสนับสนุนให้ดัชนีฯ เดินหน้าบวกอย่างเด่นชัด แต่ก็ไม่มีปัจจัยลบใหม่เข้ามากระทบเช่นกัน โดยความเสี่ยงยังเป็นแรงกดดันจากภาวะเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวช้า และดัชนีฯ ได้ตอบรับ ด้วยการปรับฐานลงมาร้อยกว่าจุดแล้ว แนวโน้มพรุ่งนี้แกว่งแคบ แนะเลือกเล่นเป็นรายตัว
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (19 มี.ค.) ดัชนีหุ้นไทยปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,532.13 จุด เพิ่มขึ้น 0.63 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.04% มูลค่าการซื้อขาย 38,592.96 ล้านบาท โดยภาพรวมวันนี้ ดัชนียืนแดนบวกได้ตลอดช่วงเช้า ส่วนช่วงบ่ายเจอแรงขายทำกำไรฉุดให้ดัชนีผันผวนลงแดนลบ และขยับขึ้นปิดบวกได้สำเร็จ โดยดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ ระดับ 1,544.69 จุด และจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,529.66 จุด
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรินีตี้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้เปิดในช่วงเช้าปรับตัวขึ้นได้ค่อนข้างดี เป็นไปตามตลาดหุ้นทั่วโลก ตอบรับผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่ายังไม่รีบขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ แต่ต่อมาก็มีแรง take profit เข้ามาทำให้ SET ย่อตัวลง แต่ส่วนใหญ่ก็ยังยืนในแดนบวกได้
ทั้งนี้ ได้มองประเด็นเฟดน่าจะเป็นปัจจัยบวกให้กับตลาดบ้านเราด้วย เพราะดูได้จาก Bond Yield ของสหรัฐฯ ได้ปรับตัวลงทำให้ความน่าสนใจของ SET สูงขึ้น เงินดอลลาร์สหรัฐก็อ่อนค่าลงด้วย จึงเป็นปัจจัยหนุนให้ Flow ไหลกลับเข้ามาได้ในช่วงถัดไป
ส่วนเรื่องที่ SET เจอแรง take profit น่าจะมาจากนักลงทุนที่ได้มีการสะสมหุ้นในช่วง 1,500 จุดหรือ 1,500 จุดต้นๆ ในช่วงก่อนหน้านี้ หลังจากที่ภาวะเศรษฐกิจขณะนี้ยังไม่ดี และ Valuation ของตลาดฯ ก็ยังแพงอยู่ในแง่ของ P/E ทำให้นักลงทุน take profit กันเพื่องป้องกันความเสี่ยง ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ส่วนใหญ่ก็ยังอยู่ในแดนบวก เป็นตอบรับเรื่องของเฟดที่ยังไม่เร่งรีบขึ้นอัตราดอกเบี้ย
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (20 มี.ค.) นายณัฐชาต กล่าวว่า ตลาดฯ คงจะแกว่ง Sideway ถึง Sideway-Up โดยมีแนวรับ 1,520 จุด ส่วนแนวต้าน 1,540-1,550 จุด
ด้านนายสมชาย เอนกทวีผล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัสเปิดเผยว่า ดัชนีหุ้นไทยแกว่งบวกในช่วงเช้าตามตลาดหุ้นทั่วโลก หลังจากมีความชัดเจนผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ออกมาชัดเจนว่า เฟดยังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย แม้ว่าจะตัดคำว่า “อดทน” ออกไป เนื่องจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงเป็นปัจจัยกดดันต่อการขยายตัวอัตราเงินเฟ้อไปสู่เป้าหมาย อีกทั้งได้ปรับประมาณการณ์การเติบโตเศรษฐกิจสหรัฐฯ ลง
อย่างไรก็ตาม ช่วงบ่ายมีแรงขายทำกำไรออกมา มองว่าจากแรงเก็งกำไรเข้ามาเมื่อวาน ด้วยคาดว่าเฟดไม่น่าจะรีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย จนทำให้ดัชนีฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 18 จุด เมื่อผลการประชุมมีความชัดเจนและเป็นไปตามคาดการณ์ จึงเทขายทำกำไรออกมา อีกทั้งยังไร้ปัจจัยบวกใหม่ที่จะสนับสนุนให้ดัชนีฯ เดินหน้าบวกอย่างเด่นชัด แต่ก็ไม่มีปัจจัยลบใหม่เข้ามากระทบเช่นกัน โดยความเสี่ยงยังเป็นแรงกดดันจากภาวะเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวช้า และดัชนีฯ ได้ตอบรับ ด้วยการปรับฐานลงมาร้อยกว่าจุดแล้ว
ส่วนแนวโน้มดัชนีวันพรุ่งนี้ (20 มี.ค.) คาดว่า หุ้นไทยแกว่งตัวผันผวนกรอบแคบ แม้เฟดจะส่งสัญญาณไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย แต่ด้วยการฟื้นตัวเศรษฐกิจไทยที่ยังคงล่าช้า แม้หุ้นในกลุ่มสื่อสารที่มีข่าวการประมูล 4G ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือน ส.ค.นี้ แต่ในช่วงที่ดัชนีฯ ปรับฐาน หุ้นกลุ่มสื่อสารก็รับข่าวประมูล 4G ไปพอสมควร การปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มนี้จึงไม่ได้ช่วยพยุงหุ้นไทยมากเท่าไรนัก
ส่วนกระแสเงินทุนของนักลงทุนต่างชาติเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ยังสร้างแรงคาดหวังต่อบรรยากาศการลงทุนว่า จะเห็นเม็ดเงินจากมาตราการ QE ของธนาคารกลางยุโรปเข้ามาลงทุนในหุ้นไทยบ้าง แม้ว่าช่วงที่ผ่านมาจะยังไม่เห็นแนวโน้มที่ชัดเจนของกระแสเงินทุนของนักลงทุนต่างชาติ ด้านกลยุทธ์ นักเก็งกำไรสามารถเก็งกำไรในกรอบแนวรับ-แนวต้าน และไม่ไล่ราคา หากดัชนีฯ ปรับตัวขึ้น พร้อมประเมินแนวรับ 1,525-1,520 จุด แนวต้าน 1,540-1,545 จุด