“รมว.คลัง” ประสานเสียง “ตลท.” ระบุดัชนีหุ้นไทยร่วงแรงเกือบ 60 จุด ในวันนี้เป็นไปตามทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลก ยืนยันยังไม่จำเป็นต้องจัดตั้งกองทุนพยุงหุ้น แนะพิจารณาผลดีราคาน้ำมันร่วง แถมช่วยลดต้นทุนค่าครองชีพ พร้อมย้ำรัฐบาลจะเดินหน้าสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนทั้งไทย และต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะนักลงทุนไทยที่มีความอ่อนไหว วอนไม่ควรตื่นตระหนก
นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การที่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงแรงเป็นไปตามตลาดหุ้นต่างประเทศทั่วโลก เพราะวิตกกังวลจากสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติของตลาดหุ้นที่มีทั้งขึ้นและลง ซึ่งการที่ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงนั้น เป็นผลดีต่อค่าครองชีพลดลงด้วย โดยเฉพาะค่าโดยสารที่ต้นทุนน้ำมันลดลง ดังนั้น เห็นว่าอัตราค่าโดยสารควรปรับลดลงด้วย
“มันลดลงไปตามกระแสเมืองนอก เชื่อผมสิมันลงได้เดี๋ยวมันก็ขึ้นได้ ส่วนนักลงทุนทั้งในต่างประเทศ โดยเฉพาะนักลงทุนไทยอย่าไปตื่นตระหนก อย่าไปคิดมาก ส่วนทางการ หรือรัฐบาลก็พยายามดำเนินการอยู่แต่ถ้าจะให้เร็วในการเรียกความเชื่อมั่นบางครั้งมันก็ต้องใช้เวลาเหมือนกัน”
นายสมหมาย ยืนยันว่า รัฐบาลจะเดินหน้าสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนทั้งไทย และต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะนักลงทุนไทยที่มีความอ่อนไหว ซึ่งที่ผ่านมา รัฐบาลแสดงให้เห็นแล้วว่าไม่มีการปรับขึ้นภาษีแต่อย่างใด ขณะเดียวกัน มีการลดภาษีให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี รวมทั้งมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยปี 2558 จะปรับตัวดีขึ้นกว่าปีนี้ รวมทั้งภาคการส่งออกจะมีอัตราการขยายตัวที่ดีขึ้นแน่นอน
“ปีหน้าเรามองว่ามันจะดี ยังมีความยากลำบากในเรื่องของการส่งออก แต่รัฐบาลก็เดินหน้าเต็มที่ อย่างในเรื่องภาษีผมก็ยังไม่เห็นว่าจะมีการปรับขึ้น มีแต่การปรับลดภาษีลงมากกว่า ขณะที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ตกต่ำนั้นเราก็มองว่าจะตกไปอีกระยะหนึ่ง และน่าจะเป็นแรงกระตุ้นเศรษฐกิจได้อีกช่องทางหนึ่ง เพราะเป็นตัวช่วยลดต้นทุนการผลิตด้วย”
ด้านนางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า การที่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงเกือบ 60 จุด ในวันนี้ (15 ธ.ค.) เป็นไปในทิศทางกับตลาดหุ้นทั่วโลก และตลาดหุ้นเอเชีย หลังจากดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวลดลงถึง 315.51 จุด เนื่องจากราคาน้ำมันในตลาดโลกร่วงลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้มูลค่าหุ้นน้ำมันในตลาดหุ้นต่างๆ ทั่วโลกลดลงตามไปด้วย จากข้อมูลของดัชนี MSCI ตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงปัจจุบันพบว่าตลาดหุ้นเกิดใหม่ปรับตัวลดลงร้อยละ 5.8 ขณะที่ตลาดหุ้นไทย ปรับตัวลดลงร้อยละ 4.2 ใกล้เคียงกับตลาดหุ้นมาเลเซีย โดยเฉพาะตลาดหุ้นที่มีทรัพยากรน้ำมันเป็นหลักจะได้รับผลกระทบมาก เนื่องจากมูลค่าหุ้นน้ำมันลดลงตามราคาน้ำมันที่ร่วงลงแรง และนักลงทุนยังประเมินราคาหุ้นน้ำมันยังอยู่ในระดับต่ำต่อไป
อย่างไรก็ตาม ตลท.จะขอติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด แต่ยังเห็นว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องตั้งกองทุนพยุงหุ้นแต่อย่างใด และขอให้นักลงทุนอย่าตื่นตระหนกต่อการที่ดัชนีปรับตัวลดลง โดยขอให้นักลงทุนพิจารณาวางแผนการลงทุนระยะยาวในหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากการที่ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงซึ่งมีอยู่หลายกลุ่มอุตสาหกรรม เช่น กลุ่มสายการบิน และมองว่าการที่ราคาน้ำมันลดลงจะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจไทย ไม่ให้มีแรงกดดันจากภาวะเงินเฟ้อ และจะส่งผลดีต่อกำไรของบริษัทจดทะเบียนในปีหน้าให้มีการขยายตัว
