“ขุนคลัง-ทีม ศก.” ฟิตลุยงานวันแรก เรียกร้องประชาชน ภาคธุรกิจ เชื่อมั่น และมีส่วนร่วมแก้ปัญหา

รมว.คลัง คนใหม่เริ่มเข้าทำงานที่กระทรวงเป็นวันแรก โดยจะมอบนโยบายให้ ขรก. ในสังกัดวันพุธนี้ “สมคิด” ขอตั้งใจเป็นอีกแรงหนึ่งในการแก้ปัญหา ศก.ให้บ้านเมืองเพราะประชาชนกำลังเดือดร้อน พร้อมย้ำพื้นฐาน ศก.ของประเทศยังแข็งแกร่ง หากก้าวเดินไปอย่างไม่ประมาท จะสามารถประคับให้เดินหน้าต่อได้ เรียกร้องให้ประชาชน ภาคธุรกิจ เชื่อมั่นต่อ ศก.ไทย

รายงานข่าวแจ้งว่า นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่ ได้เดินทางเข้ากระทรวงเมื่อเวลา 07.15 น. เช้าวันนี้ โดยเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวง 6 จุด ประกอบด้วย พระพรหม พระภูมิเจ้าที่ พระคลังในพระคลังมหาสมบัติ พระรูปพระปิยมหาราช และขึ้นไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนตึกสำนักปลัดกระทรวงการคลัง ชั้น 3 พระประจำกระทรวง และชั้น 4 รูปหล่อรัชกาลที่ 5 หลังจากนั้น ได้มีการพูดคุยกับผู้บริหารกระทรวง และในวันพรุ่งนี้จะมีการเข้าประชุมคณะรัฐมนตรีก่อนที่จะมีการมอบนโยบายในวันพุธนี้

ด้าน นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าทีมเศรษฐกิจก็เดินทางเข้าทำเนียบเพื่อเริ่มงานในวันแรกเช่นกัน โดยกล่าวต่อสื่อมวลชนภายหลังเข้าหารือกับนายกรัฐมนตรี เพื่อแบ่งงานและรับทราบนโยบายในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ โดยระบุว่า การเข้าร่วม ครม.เพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจในครั้งนี้ ขอตั้งใจเป็นอีกแรงหนึ่งในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้แก่บ้านเมือง เพราะประชาชนกำลังเป็นห่วงสภาพเศรษฐกิจ พร้อมยืนยันว่า พื้นฐานเศรษฐกิจของประเทศยังแข็งแกร่งหากก้าวเดินไปอย่างไม่ประมาทจะสามารถประคับประคองเศรษฐกิจให้เดินหน้าต่อไปได้ และเรียกร้องให้ประชาชน ภาคธุรกิจ มีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทย

นายสมคิด กล่าวว่า การดูแลปัญหาเศรษฐกิจในเบื้องต้นต้องหาทางให้เกษตรกรที่เผชิญปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำมีกำลังซื้อ จากนั้นจะทำให้ภาคเอกชนอยู่รอดได้ จึงเตรียมเสนอ ครม.พิจารณามาตรการดูแลเศรษฐกิจในระยะสั้นเพื่อให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบ ส่วนในระยะยาวเตรียมนำข้อเสนอของ สปช. ซึ่งได้ศึกษาแนวทางการปฏิรูปด้านต่างๆ เพื่อผลักดันให้เกิดเป็นรูปธรรมในช่วงกว่า 1 ปีของการบริหารของรัฐบาล

ทั้งนี้ ยอมรับว่าปัญหาเศรษฐกิจขณะนี้มาจาก 2 ด้าน คือ ปัจจัยภายนอก เพราะหลายประเทศเผชิญปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว จึงเป็นเหตุในช่วงสั้น เมื่อคลี่คลายไปจะทำให้เศรษฐกิจของประเทศดีไปด้วย อีกด้านหนึ่งเป็นปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ จึงทำให้ระดับรากหญ้าไม่มีกำลังซื้อในช่วงค่าครองชีพแพง การแก้ปัญหาเศรษฐกินใจช่วงสั้นจึงต้องช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสให้มีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น โดยในช่วงที่ผ่านมา เศรษฐกิจของประเทศพึ่งพาการส่งออก และขับเคลื่อนเศรษฐกิจจากส่วนกลาง ต่อไปจะกระจายการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อให้เศรษฐกิจทั้ง 76 จังหวัดเติบโตขึ้นพร้อมกันผ่านการปฏิรูปในด้านต่างๆ

นายสมคิด กล่าวเริมว่า ตนเองเตรียมนัดหารือกับภาคเอกชน ทั้งสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศเทศไทย (ส.อ.ท.) สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย เพื่อชี้แจงแนวนโยบายเศรษฐกิจ และดึงเอกชนให้เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาในวันพฤหัสบดีนี้ ยืนยันทุกกระทรวงด้านเศรษฐกิจจะทำงานไปในทิศทางเดียวกันเพื่อแก้ปัญหาต่างๆ ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี