INTUCH คงเป้ารายได้ปีนี้คาดไม่น้อยกว่า 5-7% หลังครึ่งปีแรกรับรู้รายได้แล้วกว่า 4% ชู ADVANC THCOM 2 บริษัทในเครือดันรายได้เข้าเป้า เผยการเจรจา 10 บริษัทร่วมทุนทำแวนเจอร์แคป คาดได้ข้อสรุปบางส่วนในปีนี้
นางทมยันตี คงพูลศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักการลงทุนสัมพันธ์ บมจ.อินทัช โฮลดิ้งส์ หรือ INTUCH กล่าวว่า บริษัทฯ ยังคงรักษาระดับเป้าหมายรายได้ปีนี้โดยคาดว่าจะเติบโตไม่น้อยกว่า 5-7% ซึ่งพิจารณาจากรายได้ในครึ่งแรกของปี 2558 ที่มีรายได้เติบโตถึง 4% อย่างไรก็ดี รายได้หลักของในปีนี้มาจาก บมจ.ไทยคม หรือ THCOM และ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ ADVANC เป็นหลัก ขณะที่แนวโน้มการเติบโตของ THCOM มีการรับรู้รายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่องจากค่าเช่าสัญญาณดาวเทียมไทยคม 7 ได้ครบ 100% ซึ่งประเมินว่าจะมีรายได้ในปีนี้เติบโตขึ้นไม่น้อยกว่า 5-6%
เนื่องจากความต้องการใช้ช่องสัญญาณดาวเทียมยังคงมีอัตราที่สูงขึ้น ทั้งจากธุรกิจโทรคมนาคม และธุรกิจมีเดียในประเทศไทย และประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตะวันออกกลาง ออสเตรเลีย และประเทศในแถบแอฟริกา
นอกจากนี้ รายได้ที่มาจากส่วนแบ่งกำไรของ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส ซึ่งคาดว่าจะสามารถทยอยรับรู้ได้ประมาณ 90% โดยการรับรู้รายได้ที่เกิดขึ้นของ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส ประมาณการรายได้คาดว่าจะเติบโตอยู่ที่ประมาณ 3% ดีกว่าปีที่ผ่านมา แม้ว่าสถานการณ์เศรษฐกิจยังอยู่ในช่วงชะลอตัว และยังคงมีปัญหาด้านการชะลอตัวของเศรษฐกิจ แต่ทั้งนี้ บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าด้วยแผนการลงทุนธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องในอนาคต และการออกโปรโมชันส่งเสริมการขายจะสามารถช่วยกระตุ้นกำลังซื้อให้รายได้ของบริษัทมีการเติบโตขึ้นในระดับที่น่าพอใจในอนาคตได้อย่างแน่นอน
“ขณะเดียวกัน ในส่วนของแผนการเข้าไปลงทุนในธุรกิจ Venture capital ภายใต้โครงการ In Vent ที่บริษัทจะเข้าไปถือหุ้นในแต่ละกิจการด้วยสัดส่วน 25-30% โดยใช้งบลงทุนด้านการพัฒนา Venture capital ปีละ 200 ล้านบาท เพื่อขยายตลาดของธุรกิจประเภทโทรคมนาคม มีเดีย เทคโนโลยีสารสนเทศ และดิจิตอลคอนเทนต์ โดยปัจจุบันก็อยู่ระหว่างการเจรจากับบริษัทที่จะเข้าไปลงทุน จำนวน 10 ราย โดยคาดว่าน่าจะได้ข้อสรุปบางส่วนปีนี้”
ทั้งนี้ ในส่วนของสถานการณ์เหตุระเบิดที่ราชประสงค์ บริษัทฯ ยืนยันว่าไม่กระทบต่อแผนธุรกิจ เนื่องจากธุรกิจของบริษัทฯ มีพื้นฐานที่ดี อีกทั้งในวันที่ 10 กันยายนนี้ บริษัทฯ เตรียมที่จะมีการจ่ายปันผลผู้ถือหุ้นในอัตรา 2.40 บาท/หุ้น