ไทยคม ปรับลดเป้าการเติบโตจากเดิม 10% เหลือ 5-7% หลังเศรษฐกิจชะลอตัว พร้อมเพิ่มบริการ Mobility Solution เสริมรายได้ เผยล่าสุด ต่อไลเซนส์ลาวเทเลคอมไปอีก 25 ปี หรือจนถึงปี 2589 ด้วยเงินลงทุน 2,000 ล้านบาท หลังเล็งเห็นโอกาสในการเติบโตไปได้ดี ส่วนดาวเทียมไทยคม 8 พร้อมให้บริการในไตรมาส 1 ปี 2559 รองรับการให้บริการแพร่ภาพในระบบเอชดี และอัลตราเอชดี ครอบคลุมในอาเซียน เอเชียใต้ และแอฟริกา
นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลการดำเนินงานรวมของไทยคมในปีนี้คาดว่ารายได้รวมของบริษัทน่าจะเติบโตได้เพียง 5-7% จากเดิมที่เคยคาดการณ์ว่าจะโตได้ราว 10% เนื่องจากปัจจัยลบจากปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศ ซึ่งการทำธุรกิจนับจากนี้จะเน้นการเพิ่มมูลค่าเพิ่มให้แก่บริการต่างๆ และขยายบริการ Mobility Solution ให้มากขึ้น เนื่องจากมองว่าจะสามารถสร้างรายได้ให้แก่ไทยคมได้มากขึ้น รวมไปถึงการขยายตลาดในต่างประเทศ
โดยสัดส่วนรายได้จากไทยคมยังมาจากธุรกิจดาวเทียมราว 87% และจากลาว เทเลคอม 11% และจากธุรกิจอื่น 2% ทั้งนี้ ในส่วนของธุรกิจดาวเทียมรับรู้รายได้จากส่วนที่เป็นธุรกิจโทรคมนาคม 50% และธุรกิจบรอดคลาสติ้ง 50% ซึ่งไทยคมได้ให้บริการช่องโทรทัศน์ 764 ช่องเป็นช่องต่างประเทศ 250 ช่อง และช่องเอชดี 122 ช่อง ส่วน Mobility Solution นั้นจะเน้นการให้บริการไวไฟผ่านดาวเทียม ที่จะครอบคลุมทั้งการขนส่งทั้งบนบก ทะเล และอากาศ ในรูปแบบของไวไฟเคลื่อนที่บนรถประจำทาง เรือโดยสาร และสายการบิน
“ล่าสุด ไทยคมได้บรรลุข้อตกลงกับรัฐบาลลาวในการขยายอายุใบอนุญาตล่วงหน้าในการให้บริการโทรศัพท์มือถือในประเทศลาวต่อไปอีก 25 ปี โดยการต่ออายุใหม่จะสิ้นสุดลงในปี 2589 จากเดิมที่จะสิ้นสุดในปี 2564 โดยการต่ออายุนั้นใช้เงิน จำนวน 2,000 ล้านบาท การต่ออายุใบอนุญาตดังกล่าวเนื่องจากไทยคมมองว่าลาวเป็นตลาดที่แข็งแกร่ง ประกอบกับการเจรจาต่ออายุใบอนุญาตนั้นจะทำให้ไทยคมจะพิจารณานำลาว เทเลคอม เข้ากระจายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ”
ปัจจุบัน ลาว เทเลคอม เป็นผู้นำในตลาดโทรศัพท์มือถือมีส่วนแบ่งทางการตลาด 48% มียอดผู้ใช้บริการราว 1.8 ล้านราย ซึ่งกลยุทธ์การทำตลาดของลาวเทเลคอมจะเน้นการใช้งานด้านสื่อสารข้อมูล โมบายอินเทอร์เน็ต กลุ่มเป้าหมายมีทั้งคนรุ่นใหม่ นักเรียน นักศึกษา และลูกค้าองค์กร ซึ่งในกลุ่มนักเรียน นักศึกษานั้น ลาว เทเลคอม ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับมหาวิทยาลัยในการใช้ซิมการ์ดในการลงทะเบียนเรียน และใช้งานผ่านแอปพลิเคชัน
นางศุภจี กล่าวว่า ปัจจุบันสัดส่วนทางธุรกิจของลาว เทเลคอมนั้นเป็นการถือหุ้นระหว่างรัฐบาลลาวในสัดส่วน 51% ส่วนไทยคมถือหุ้น 49% และปัจจุบัน ลาว เทเลคอมนำส่งรายได้ให้ไทยคมคิดเป็น 11% ของรายได้รวมไทยคม ทั้งนี้ หากมองภาพรวมของการลงทุนในปีนี้นั้น ไทยคมจะใช้เงินลงทุนราว 3,500 ล้านบาท แบ่งเป็นการจ่ายค่าต่ออายุใบอนุญาตลาว เทเลคอม 2,000 ล้านบาท และดาวเทียมไทยคม 8 ส่วนที่เหลืออีก 1,500 ล้านบาท ซึ่งแหล่งเงินทุนมาจากกระแสเงินสดของไทยคมเองราว 3,000 ล้านบาท และจากแหล่งเงินกู้
ปัจจุบัน ไทยคมให้บริการดาวเทียมอยู่ 4 ดวงคือไทยคม 4 (ไอพีสตาร์) โดยปัจจุบันใช้ความจุ (แบนด์วิธ) และขายทรานสปอนเดอร์ไปแล้ว 57% ไทยคม 5 ใช้แบนด์วิธเต็มแล้ว ไทยคม 6 ใช้แบนด์วิธไปแล้ว 64% เหลือว่างอยู่ 36% และไทยคม 7 นั้นปัจจุบันขายแบนด์วิธเต็มแล้ว โดยลูกค้ารายใหญ่สุดมาจากประเทศอินเดีย ซึ่งซื้อแบนด์วิธมากกว่า 7 ทรานสปอนเดอร์
ส่วนในปี 2559 คาดว่าจะสามารถยิงดาวเทียมดวงใหม่คือ ไทยคม 8 ในตำแหน่ง 78.5 องศาตะวันออกได้ในไตรมาส 1/2559 ซึ่งจะมารองรับการให้บริการแพร่ภาพในระบบเอชดี และอัลตราเอชดี ซึ่งมีฟุตพรินต์ครอบคลุมในอาเซียน เอเชียใต้ และแอฟริกา โดยคาดว่าจะใช้เงินในการสร้างดาวเทียมไทยคม 8 ประมาณ 150 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยในปี 2557 ใช้เงินในการสร้างไปแล้ว 100 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3,000 ล้านบาท ซึ่งในปลายปีนี้ต้องจ่ายเงินค่าดาวเทียมในส่วนที่เหลืออีก 50 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1,500 ล้านบาท