สแกน อินเตอร์ โชว์กำไรสุทธิจากธุรกิจต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีแรกพุ่ง 47.60% หลังขีดความสามารถการแข่งขัน และบริหารจัดการดีเยี่ยม ด้านผู้บริหารย้ำกำไรสุทธิทั้งปีเติบโตแน่นอน รับปัจจัยบวกจากธุรกิจ iCNG และธุรกิจปรับปรุงคุณภาพก๊าซ จะเป็นแรงหนุนช่วยดันกำไรสุทธิ
ดร.ฤทธี กิจพิพิธ กรรมการบริหาร ผู้อำนวยการสายงานบริหารและการตลาด บริษัท สแกน อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCN ผู้ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องต่อก๊าซธรรมชาติแบบครบวงจร เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรกยังเติบโตได้ตามเป้าหมาย หลังตัวเลขผลการดำเนินงานจากธุรกิจต่อเนื่องในงวด 6 เดือนแรกปีนี้ (มกราคม-มิถุนายน) สามารถทำกำไรสุทธิได้ 110.14 ล้านบาท หรือเติบโต 47.60% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งไม่รวมรายได้จากโครงการพิเศษ และกำไรจากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ได้ขายออกไปเมื่อปีที่ผ่านมา ที่มีกำไรสุทธิ 74.62 ล้านบาท
ส่วนกำไรสุทธิจากธุรกิจต่อเนื่องในไตรมาส 2/58 (เมษายน-มิถุนายน) ทำได้ 42.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.87% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้รวมจากธุรกิจต่อเนื่องในไตรมาส 2/58 อยู่ที่ 446.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.36% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่สามารถทำรายได้ 419.63 ล้านบาท
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในรอบ 6 เดือนแรกของปีนี้ และไตรมาส 2 ที่บริษัทฯ สามารถทำกำไรสุทธิจากธุรกิจต่อเนื่องให้เติบโตได้อย่างโดดเด่นนั้น มาจากการบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถเพิ่มศักยภาพการทำกำไรจากการดำเนินธุรกิจต่อเนื่องของ SCN ได้อย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากบริษัทฯ สามารถเริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจ iCNG ได้บางส่วน รวมทั้งทำรายได้จากการให้บริการสูบอัดก๊าซจากท่อก๊าซธรรมชาติของ ปตท. จนถึงลูกค้าปลายทางได้ดีอย่างต่อเนื่อง
“ธุรกิจหลักที่เกี่ยวเนื่องต่อก๊าซธรรมชาติของ SCN ยังมีอัตราการเติบโตที่ดีมาก ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจของเราได้เป็นอย่างดี โดยเรามั่นใจว่า ด้วยแรงหนุนจากผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังจากธุรกิจ iCNG ที่มีลูกค้ารายใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง หลังจากระบบลดแรงดันก๊าซธรรมชาติ (PRS) ได้บรรจุเข้าเป็นนวัตกรรมแห่งชาติ และได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยเพื่อต่อยอดประสิทธิภาพของระบบจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) ที่ผ่านมา สามารถสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้าได้มากขึ้น ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถขนส่งก๊าซธรรมชาติให้โรงงานอุตสาหกรรมรายใหญ่เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าตัว ภายในสิ้นปีนี้ หรือจากเดิมเฉลี่ยวันละ 1,500 ล้านบีทียูต่อวัน เพิ่มเป็น 3,500-4,000 ล้านบีทียูต่อวัน ประกอบกับธุรกิจปรับปรุงคุณภาพก๊าซที่จะสามารถเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้เป็นต้นไป รวมทั้งจะเป็นแรงหนุนสำคัญที่จะทำให้ผลประกอบการในปีนี้เติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางเอาไว้อย่างแน่นอน” ดร.ฤทธี กล่าว
