xs
xsm
sm
md
lg

“คอมเซเว่น” เคาะราคา IPO ที่ 3.35 บาท/หุ้น เตรียมเข้าเทรด 10 ส.ค.นี้ (ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:

บมจ.คอมเซเว่น หรือ COM7 เคาะราคาขายหุ้น IPO ที่ 3.35 บาท/หุ้น เตรียมเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 300 ล้านหุ้น หรือ 25% พร้อมให้ส่วนลดกว่าร้อยละ 39 ขณะที่ เอเซีย พลัส ในฐานะที่ปรึกษาฯ และลีด อันเดอร์ไรต์ เตรียมจูงมือ 4 อันเดอร์ไรต์ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บล.ทรีนีตี้ จำกัด, บล.บัวหลวง จำกัด (มหาชน) และ บล.ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) เปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 31 ก.ค. และ 3-4 ส.ค.2558 เชื่อนักลงทุนจะให้การตอบรับ เหตุธุรกิจไอทีมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง



นายสุระ คณิตทวีกุล ประธานกรรมการบริหาร บมจ.คอมเซเว่น หรือ COM7 กล่าวว่า เม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ราว 1,005 ล้านบาท จะนำไปใช้เป็นเงินทุนในการขยายธุรกิจ จำนวน 300 ล้านบาท ใช้ชำระคืนเงินกู้ จำนวน 500 ล้านบาท ส่วนที่เหลือนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจประมาณ 205 ล้านบาท เพื่อรองรับการเติบโตทางธุรกิจในอนาคต และเชื่อมั่นว่าการระดมทุนในครั้งนี้จะยิ่งเพิ่มศักยภาพการเติบโตของบริษัทฯ ให้มากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีเป้าหมายขยายสาขาใหม่เพิ่มเติมอีก 38 สาขา ในปี 2558 จากปัจจุบันมีสาขารวมกันทั้งสิ้น 317 สาขา ทำให้ถึงสิ้นปี 2558 คาดว่าบริษัทฯ จะมีจำนวนสาขาร้านค้าปลีก และศูนย์บริการทั้งสิ้น 355 สาขา รวมทั้งมีแผนที่จะขยายช่องทางการสั่งซื้อสินค้าผ่านระบบ E-Commerce ซึ่งบริษัทฯ อยู่ระหว่างการพัฒนาการให้บริการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.mangoshopping.com และสำหรับร้านค้าปลีกที่บริหารงานโดยบริษัทย่อยของบริษัทฯ ซึ่งได้แก่ ร้าน Mango Mobile ในปี 2558 บริษัทฯ ก็มีแผนที่จะขยายสาขาร้าน Mango Mobile เพิ่มเติมทั้งหมด 20 สาขา

“เรามีโครงการต่างๆ เพื่อต่อยอดธุรกิจไอทีของ COM7 ให้มีการเติบโตมากยิ่งขึ้น เพื่อสร้างความแข็งแกร่งในฐานะผู้นำด้านการจำหน่ายสินค้าไอทีของประเทศ จากช่องทางการขาย และบริการที่มีจำนวนสาขามากที่สุดในประเทศ และมีจำนวนสินค้าไอทีจำหน่ายหลากหลายมากที่สุดแห่งหนึ่ง สำหรับสภาวะตลาดหุ้นในปัจจุบันเราไม่มีความกังวลในเรื่องดังกล่าว เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานของ COM7 แข็งแกร่ง และธุรกิจยังมีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต นอกจากนี้ เรายังมีนโยบายในการจ่ายปันผลเพื่อตอบแทนผู้ถือในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิอีกด้วย”


นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเล็งเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจเข้าสู่กลุ่มผู้ประกอบการขนาดเล็ก (SME หรือ SMB) ซึ่งเป็นฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ที่มีการขยายตัวที่ดีในช่วงที่ผ่านมา รวมทั้งโอกาสในการรุกตลาดไปยัง AEC เพิ่มเติมให้มากยิ่งขึ้น จากปัจจุบันบริษัทฯ ได้ร่วมกับพันธมิตรเพื่อเปิดร้าน Banana IT ในประเทศพม่าแล้ว จำนวน 2 สาขา เพื่อเป็นโครงการนำร่องในการรุกไปยังประเทศอื่นๆ ที่มีศักยภาพเพิ่มเติม

ขณะที่ ดร.ก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ หรือ ASP และบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด กล่าวในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น ของ บมจ.คอมเซเว่น หรือ COM7 เปิดเผยว่า มั่นใจหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก หรือ IPO ของ COM7 จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างดี โดยบริษัทฯ ได้เสนอขายหุ้น IPO จำนวน 300 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.25 บาท ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 25 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออก และเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้

อย่างไรก็ดี เสนอขายแก่บุคคลทั่วไปประมาณ 56% จัดสรรให้นักลงทุนสถาบันประมาณ 21% และผู้มีอุปการคุณของบริษัทฯ ประมาณ 23% กำหนดเปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม และ 3-4 สิงหาคม 2558 โดยมีผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายเข้าร่วมอีก 4 แห่ง ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) โดยคาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันที่ 10 สิงหาคม 2558 โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “COM7”

“การกำหนดราคาไอพีโอของ COM7 ถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสมต่อปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และมีความน่าสนใจอย่างมาก และมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน โดยกำหนดราคา IPO อยู่ที่ 3.35 บาท คิดเป็น P/E ที่ประมาณ 17.82 เท่า จากกำไรสุทธิของบริษัทฯ ในช่วง 12 เดือนย้อนหลัง หรือตั้งแต่เดือนเมษายน 2557 ถึงสิ้นเดือนมีนาคม 2558 ที่ประมาณ 0.19 บาทต่อหุ้น ซึ่งมีส่วนลดประมาณ 39% จาก P/E ของกลุ่มอุตสาหกรรมบริการ หมวดพาณิชย์ของกลุ่มบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และมีส่วนลดประมาณ 26% จาก P/E เฉลี่ยของบริษัทจดทะเบียนที่มีการประกอบธุรกิจที่คล้ายคลึง หรือใกล้เคียงกับการประกอบธุรกิจของบริษัท อย่างไรก็ตาม เรามั่นใจว่าด้วยศักยภาพของบริษัทฯ ในฐานะผู้นำในธุรกิจค้าปลีกสินค้าไอทีรายใหญ่ของประเทศไทยที่มีจำนวนสาขามากที่สุดครอบคลุมลูกค้าทั่วประเทศ และมีการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด การเข้าจดทะเบียนในตลาดในครั้งนี้จะทำให้บริษัทฯ เข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อต่อยอดธุรกิจให้เติบโตแข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปอีก จึงทำให้เชื่อมั่นว่า COM7 จะได้รับความสนใจจากนักลงทุน และจะสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจให้แก่นักลงทุน”


กำลังโหลดความคิดเห็น