xs
xsm
sm
md
lg

อาซีฟา เคาะราคา IPO หุ้นละ 3.70 บาท เปิดจองซื้อ 28-29 และ 31 ก.ค. ก่อนเข้าเทรด 5 สิงหาคมนี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


อาซีฟา กำหนดราคา IPO ที่ 3.70 บาท/หุ้น ระดมทุน 555 ล้านบาท เพื่อต่อยอดธุรกิจ ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน ขยายโรงงาน รองรับการให้บริการที่ครอบคลุม ขยายโอกาสทางธุรกิจ รวมทั้งคืนหนี้ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน ผู้บริหารลั่นศักยภาพบริษัทดี พื้นฐานแข็งแกร่ง เชื่อไม่ทำให้นักลงทุนผิดหวัง ด้านปรึกษาทางการเงินย้ำราคาไอพีโอสะท้อนพื้นฐานที่แข็งแกร่ง มั่นใจได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน ได้ Co-Underwrite 7 แห่ง ร่วมขายหุ้น เปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 28-29 และ 31 กรกฎาคม 2558 และคาดว่าจะเข้าซื้อขายใน SET 5 สิงหาคมนี้

นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย หุ้นสามัญเพิ่มทุนบริษัท อาซีฟา จำกัด (มหาชน) หรือ ASEFA เปิดเผยว่า มั่นใจหุ้น IPO ของ ASEFA จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างดี โดยบริษัทฯ ได้เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 150 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 27.27 ของจำนวนหุ้นสำมัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้
 
โดยเสนอขายแก่นักลงทุนทั่วไป จำนวน 140 ล้านหุ้น และจัดสรรให้พนักงานและกรรมการ จำนวน 10 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 3.70 บาท กำหนดเปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 28-29 และ 31 กรกฎาคม 2558 โดยมีผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายเข้าร่วมอีก 7 แห่ง ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ แอพเพิล เวลธ์ จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ เคที ซีมิโก้ จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี โอเอสเค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด และบริษัท เอเซีย พลัส จำกัด และคาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันที่ 5 สิงหาคม 2558 โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “ASEFA”

การกำหนดราคาไอพีโอของ ASEFA ถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสมต่อปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งและมีความน่าสนใจอย่างมาก มั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน ด้วยศักยภาพของบริษัทฯ ในฐานะที่เป็นผู้นำธุรกิจผลิตและจำหน่ายสวิตช์บอร์ดในประเทศไทย ผู้บริหารมีประสบการณ์กว่า 25 ปี รวมถึงโอกาสเติบโตในอนาคต จึงทำให้เชื่อมั่นว่า ASEFA จะได้รับความสนใจจากนักลงทุน และจะสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจให้แก่นักลงทุน” นายสมภพ กล่าว

สำหรับปัจจัยเรื่องภาวะตลาดหุ้นไม่มีความกังวลเนื่องจากปัจจัยพื้นฐานของ ASEFA มีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง อนาคตธุรกิจมีโอกาสเติบโตตามโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ทั้งโครงการรถไฟฟ้า โรงไฟฟ้า และ Data Center ซึ่ง ASEFA สามารถเข้าไปรองรับงานได้ พร้อมกันนี้ จากการเดินทางไปเสนอข้อมูลแก่นักลงทุน (โรดโชว์) ใน 4 จังหวัด ประกอบด้วย อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดขอนแก่น และกรุงเทพมหานคร ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนดีมาก จึงมั่นใจว่าทิศทางหุ้น IPO ยังได้รับความสนใจจากนักลงทุน

ด้าน นายไพบูลย์ อังคณากรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาซีฟา จำกัด (มหาชน) หรือ ASEFA ประกอบธุรกิจผลิต จำหน่าย และติดตั้งผลิตภัณฑ์กระจายและส่งจ่ายไฟฟ้า สวิตช์บอร์ดไฟฟ้า รางและบันไดพาดสายไฟฟ้า โคมไฟและระบบส่องสว่าง งานบริการวิศวกรรมที่เกี่ยวข้อง และงานบริการหลังการขายครบวงจร เปิดเผยว่า เม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ จำนวน 555 ล้านบาท บริษัทฯ จะนำไปใช้ในการขยายโรงงานพระราม 2 คาดว่าใช้เงินลงทุน 130 ล้านบาท จะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตโรงงานโลหะได้อีกร้อยละ 75 เป็น 8,400 ตันต่อปี จากเดิม 4,800 ตันต่อปี นอกจากนี้ มีแผนขยายสาขาในต่างจังหวัด 10 สาขา คาดว่าเงินลงทุนประมาณ 30 ล้านบาท ที่เหลือชำระคืนเงินกู้ประมาณ 280 ล้านบาท และที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน ทั้งนี้ การชำระคืนเงินกู้จะช่วยลดภาระดอกเบี้ย และทำให้อัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) ลดลง

ทั้งนี้ ในปี 2558 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้เติบโตประมาณร้อยละ 20-25 จากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวม 1,704.19 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้ของบริษัทฯ ในปีนี้คาดว่าจะใกล้เคียงกับปี 2557 ที่มีสัดส่วนรายได้หลักมาจากการขายผลิตภัณฑ์ที่บริษัทฯ เป็นผู้ผลิตและจำหน่าย ได้แก่ สวิตช์บอร์ดไฟฟ้า รางและบันไดพาดสายไฟฟ้า และโคมไฟส่องสว่าง เป็นต้น ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 60-70 รายได้จากการขายอุปกรณ์ไฟฟ้าที่บริษัทฯ ซื้อมาเพื่อจำหน่ายต่อ คิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 15-20 และรายได้จากงานบริการ ได้แก่ งานบริการวิศวกรรมที่เกี่ยวข้อง และงานบริการหลังการขาย ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 15 ที่เหลือเป็นรายได้อื่นๆ

สำหรับเป้าหมายรายได้ของบริษัทฯ ยังไม่รวมรายได้จากกิจการร่วมค้า อาซีฟา ซันเทค ซึ่ง AESFA ร่วมกับบริษัท ซันเทค เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ที่เป็นโครงการรื้อถอนโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมบางปะกงชุดที่ 1 และ 2 โดยตามกำหนดการต้องใช้รื้อถอนให้แล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2558 ทั้งนี้ ประมาณการรายได้จากโครงการดังกล่าว 470-600 ล้านบาท

“ASEFA กำหนดราคาเสนอขายที่ 3.70 บาทต่อหุ้น เป็นราคาที่เหมาะสม ซึ่งนักลงทุนจะได้มีส่วนลงทุนในบริษัทฯ ที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง มีการเติบโตทางธุรกิจ โดยเม็ดเงินระดมทุน จำนวน 555 ล้านบาท จะยิ่งสร้างการเติบโตทางธุรกิจจากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น การขยายสาขาเพื่อเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย และการคืนเงินกู้ช่วยลดภาระทางการเงินของบริษัทฯ โดยการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งนี้เชื่อว่า ASEFA จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างดี” นายไพบูลย์ กล่าว

บริษัท อาซีฟา จำกัด (มหาชน) ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนในครั้งนี้ บริษัทฯ จะมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วเป็น 550 ล้านบาท โดยมีกลุ่มอังคณากรกุล เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทฯ ถือหุ้นสัดส่วนรวมทั้งสิ้นร้อยละ 55.54 ของทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว และลดลงเป็นร้อยละ 40.39 ภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO


กำลังโหลดความคิดเห็น