xs
xsm
sm
md
lg

ธนาพัฒน์ฯ แย้มทุนนอกรุมจีบร่วมลงทุนอสังหาฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ทรรศวรรณ ปรีดาวิภาต
ธนาพัฒน์ฯ เผยทุนนอกจีบร่วมลงทุนพัฒนาโครงการอสังหาฯ คาดเจรจาจบเร็วๆ นี้ ชี้เพิ่มประสิทธิภาพการลงทุน ตั้งเป้าพัฒนาโครงการมูลค่า 3-5 พันล้านบาท ชี้อสังหาฯ ครึ่งปีหลังยังไม่กระเตื้อง เหตุเศรษฐกิจฟื้นตัวช้าหนี้ครัวเรือนสูง เตรียมเปิดตัว 2-3 โครงการใหม่ มูลค่ากว่า 2 พันล้านปีหน้า

น.ส.ทรรศวรรณ ปรีดาวิภาต ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาโครงการ บริษัท ธนาพัฒน์ พร็อพเพอร์ตี้ ดิเวลล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากกระแสการร่วมทุน ซื้อกิจการทั้งจากกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ และกลุ่มนักลงทุนชาวไทยในช่วงที่ผ่านมา ไม่เว้นแม้แต่ธนาพัฒน์เองที่กลุ่มทุนต่างชาติเจรจาเพื่อขอร่วมลงทุนพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆ นี้

แม้ว่าการร่วมทุนจะทำให้บริษัทมีศักยภาพในการลงทุน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันนำไปสู่การเติบโตได้รวดเร็วขึ้น แต่บริษัทยังคงมีนโยบายดำเนินธุรกิจแบบระมัดระวัง สร้างการเติบโตแบบมั่นคง และยั่งยืน โดยตั้งเป้าภายใน 3-5 ปี จะสามารถพัฒนาโครงการมูลค่าไม่น้อยกว่า 3,000-5,000 ล้านบาทต่อปี

น.ส.ทรรศวรรณ กล่าวต่อว่า สำหรับภาพรวมธุรกิจอสังหาฯ ในครึ่งปีหลังแนวโน้มภาวะเศรษฐกิจยังไม่ดีขึ้นมากนัก เนื่องจากปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ทั้งการฟื้นตัวเศรษฐกิจที่ยังช้า ตัวเลขหนี้ครัวเรือนสูง อัตราการปล่อยสินเชื่อจากสถาบันการเงินยังค่อนข้างต่ำ และราคาที่อยู่อาศัยปรับตัวขึ้นตามกลไกราคาที่ดินที่ปรับตัวสูงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะที่ดินแนวรถไฟฟ้า ส่งผลให้ต้นทุนราคาที่ดินที่สูง ทำให้กำลังซื้อวิ่งตามไม่ทันต่อราคาที่ปรับตัวสูงขึ้นมาก จึงทำให้ผู้ประกอบการอย่างต้องระมัดระวังในเรื่องของการลงทุน

“ที่ผ่านมา มีบางโครงการที่เปิดตัว และสามารถปิดยอดขายได้ภายในระยะเวลาอันรวดเร็วนั้น คงต้องไปลุ้นกันอีกครั้งตอนโอนกรรมสิทธิ์ว่าจะเป็นเรียล ดีมานด์ที่แท้จริงหรือไม่ หรือเป็นนักลงทุน แต่ถ้ามีสัดส่วนของการเก็งกำไรมากก็น่าเป็นห่วง เชื่อว่าปัจจุบันความต้องการในเรื่องที่อยู่อาศัยยังมีอยู่มาก สะท้อนจากตัวเลขยอดการเยี่ยมชมของโครงการที่สูง แต่การตัดสินใจนานขึ้น เลือกมากขึ้น บริษัทจึงได้นำแคมเปญ 3 ถูกมาใช้ คือ “ถูกทำเล ถูกใจ และถูกราคา”

น.ส.ทรรศวรรณ กล่าวต่อว่า สำหรับผลการดำเนินงานในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา มียอดขายแล้ว 300 ล้านบาท โดยคาดว่าทั้งปีจะมียอดขายราว 800-900 ล้านบาท ส่วนแผนการดำเนินงานของบริษัทในครึ่งปีหลังนี้ ถึงต้นปี 2559 คาดว่าจะมีการเปิดตัวใหม่ประมาณ 2-3 โครงการ รวมมูลค่าประมาณ 2,000 ล้านบาท ขณะนี้มีที่ดินที่ซื้อใหม่แล้ว 1 แปลง และที่ดินสะสมย่านพระราม 2 อีก 2-3 แปลง ซึ่งรูปแบบการพัฒนาจะเป็นโครงการรูปแบบใหม่ที่บริษัทยังไม่เคยพัฒนามาก่อน เน้นเจาะลูกค้าที่อาศัยอยู่ในเมือง โดยเน้นพัฒนาโครงการที่ไม่ใหญ่มาก จำนวน 50-60 ยูนิต ใช้ระยะเวลาในการขายเพียงครึ่งปี

ทั้งนี้ เชื่อว่าในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทต่างๆ มีการจัดแคมเปญเพื่อกระตุ้นยอดขาย เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจในครึ่งปีหลังที่ยังไม่ฟื้นตัว ซึ่งในส่วนของบริษัทได้จัดแคมเปญครบรอบ 12 ปี เพื่อคืนกำไรให้ลูกค้า โดยนำ 2 โครงการ คือ “ซิม วิภา-ลาดพร้าว” เป็นคอนโดมิเนียมเหลือขายอยู่ 10 ยูนิต เนื้อที่ 60 ตร.ม.ขึ้นไป ราคาเริ่มต้น 5.9 ล้าน รวมมูลค่าประมาณ 120 ล้านบาท จากมูลค่าโครงการทั้งหมดกว่า 1,900 ล้านบาท

และ “เจด สาทร-พระราม3” แบ่งการขายเป็น 2 เฟส เป็นทาวน์โฮม สูง 4 ชั้นครึ่ง ขนาด 20.5 ตร.ว.ขึ้นไป ราคาเริ่มต้นที่ 12.8-30 ล้านบาท จำนวน 72 ยูนิต ปัจจุบันมียอดขายแล้วกว่า 60% และ “เจด ไฮท์” เป็นลักชัวรี่โฮมออฟฟิศ สูง 4 ชั้นครึ่ง ขนาด 45 ตร.ว. ราคา 28 ล้านบาท เหลือขาย 4 ยูนิต มาจัดแคมเปญสำหรับผู้ซื้อตั้งแต่วันที่ 30 ก.ค.นี้ไปจนถึงสิ้นปี จะมีสิทธิลุ้นจับสลากรถยนต์เมอร์เซเดส เบนซ์ รุ่นซี 200 มูลค่า 2.59 ล้านบาท รวมไปถึงการร่วมออกบูทในงาน “บ้านดีสี่มุมเมือง” ระหว่างวันที่ 30 ก.ค.-4 ส.ค.นี้ ที่เซ็นทรัล พลาซา ลาดพร้าว คาดว่าจะสามารถปิดการขายทั้ง 2 โครงการสิ้นปีนี้


กำลังโหลดความคิดเห็น