“แกรนด์ แอสเสท” คาด PF กำหนดนโยบายรุกตลาดคอนโดฯ ไฮเอนด์กลางเมือง ควบคู่ลงทุนโรงแรมหลังซื้อหุ้นสำเร็จ เปิดแผนลงทุนปี 58 จ่อเปิดคอนโดฯ แบรนด์ ไฮด์ 1 โครงการ เผยอยู่ระหว่างเจรจาเทกโอเวอร์โรงแรมติดทะเล 1 แห่ง คอนโดฯ ใกล้สร้างเสร็จอีก 1 แห่ง พร้อมสนซื้ออพาร์ตเมนต์-คอนโดฯ ย่าน CBD ในกรุงลอนดอน ล่าสุดเปิดตัว ไฮด์ สุขุมวิท 11 ตั้งเป้ายอดขายทั้งปี 2,000-3,000 ล้านบาท
นายวิทวัส วิภากุล กรรมการและรองประธานกรรมการบริหาร บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทล แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ GRAND เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ PF ได้ทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ของบริษัทระหว่างวันที่ 17 มิถุนายน-22 กรกฎาคม 2558 ในราคาเสนอซื้อที่ 1.29 บาท/หุ้น และจะมีผลต่อนโยบายการดำเนินงานของบริษัทหลังจากนี้ไป ซึ่งต้องรอให้ PF เป็นผู้กำหนดนโยบาย แต่ในเบื้องต้นคาดว่า PF จะยังคงรักษาฐานลูกค้าที่อยู่อาศัยระดับกลาง และให้ GRAND รุกตลาดคอนโดมิเนียมระดับบนใจกลางกรุงเทพฯ ควบคู่ไปกับการลงทุนธุรกิจโรงแรม
โดยทิศทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ยังจะคงเน้นในรูปแบบ Hybrid คือ ดำเนินธุรกิจทั้งในส่วนของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เพื่อการรับรู้รายได้ในระยะสั้น-ปานกลาง และการลงทุนในส่วนของธุรกิจโรงแรม ซึ่งเป็นการลงทุนในทรัพย์สินเพื่อเป้าหมายในการบริหารจัดการทรัพย์สินนั้นๆ ให้มีการรับรู้รายได้คงที่ และค่อยๆ เติบโตในระยะยาว ทั้งนี้ เพื่อลดการกระจุกตัวของโครงสร้างรายได้ และการพึ่งพาธุรกิจด้านใดด้านหนึ่ง อีกทั้งเป็นวิธีในการเพิ่มมูลค่าให้ธุรกิจ จากในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน สัดส่วนรายได้จากธุรกิจโรงแรมอยู่ที่ 90% และรายได้จากอสังหาฯ 10% และในอนาคตจะปรับสัดส่วนรายได้โรงแรมเหลือ 40% และธุรกิจอสังหาฯ เพิ่มเป็น 60%
สำหรับแผนการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปีนี้จะเปิดตัวคอนโดฯ ไฮไรซ์ใกล้แนวรถไฟฟ้าเส้นสุขุมวิทอีก 1 โครงการ ขณะนี้อยู่ในระหว่างการเจรจาซื้อที่ดินอยู่ โดยจะใช้ที่ดินประมาณ 1 ไร่ครึ่ง พัฒนาภายใต้แบรนด์ “ไฮด์” เน้นกลุ่มเป้าหมายระดับบน และมีแผนที่จะซื้อโครงการคอนโดฯ ที่อยู่ระหว่างก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จมาพัฒนาต่อเพื่อสร้างรายได้เข้าบริษัทเร็วขึ้น
นอกจากนี้ ยังอยู่ในระหว่างการซื้อโรงแรมริมทะเลเพิ่มอีก 1 แห่ง เพื่อมารีโนเวต และเปิดให้บริการ ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทได้เข้ากิจการโรงแรมเอวาซอน หัวหิน ระดับ 5 ดาว ในส่วนของ วิลล่า จำนวน 55 หลัง โดยใช้การบริหารภายใต้แบรนด์ เชอราตัน หัวหิน อย่างไรก็ตาม ในปีนี้บริษัท คาดว่าจะรับรู้รายได้ประมาณ 1,500-2,000 ล้านบาท และตั้งเป้ามียอดขายที่ประมาณ 2,000-3,000 ล้านบาท
“ธุรกิจโรงแรม บริษัทฯ เน้นการลงทุนในโรงแรมระดับ 4-5 ดาว ภายใต้แบรนด์ที่มีชื่อเสียง โดยบริษัทฯ เป็นผู้ลงทุนในการก่อสร้าง และจัดจ้างบริษัทผู้บริหารโรงแรมที่มีประสบการณ์ และมีเครือข่ายทั่วโลกมาบริหารทรัพย์สิน เช่น กลุ่ม Starwood Hotels & Resorts Worldwide, Inc. และกลุ่ม Hyatt International Corporation ซึ่งเป็นผู้บริหารโรงแรมรายล่าสุด
ทั้งนี้ การลงทุนในธุรกิจโรงแรมบริษัทฯ จะเลือกลงทุนในสถานที่ที่สะดวกในการเดินทาง และอยู่ในย่านธุรกิจของกรุงเทพฯ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีนโยบายกระจายความเสี่ยงของการลงทุนในธุรกิจโรงแรมไปยังต่างจังหวัด หรือในอนาคตไปยังต่างประเทศ โดยเลือกทำเลที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่แตกต่างหลากหลาย” นายวิทวัส กล่าว
นายวิทวัส กล่าวเพิ่มเติมว่า ในอนาคตบริษัทฯ สนใจที่จะเข้าไปลงทุนอสังหาฯ ประเภทคอนโดมิเนียม หรือเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษด้วย โดยมีบริษัท ฮาริสัน จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาด้านการลงทุน ซึ่งคงต้องใช้ระยะเวลาในการศึกษาข้อมูลอีกระยะหนึ่ง เพราะลอนดอน เป็นเมืองที่นักลงทุนทั่วโลกให้ความสนใจมาลงทุนเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีมหาเศรษฐีมากเป็นอันดับ 1 ของโลกด้วย โดยบริษัทฯ สนใจทำเลโซน 1 และโซน 2 ซึ่งเป็นเขตซีบีดีของลอนดอน หากพร้อมที่จะลงทุนก็คงเป็นในรูปแบบของการซื้ออสังหาริมทรัพย์มารีโนเวต และขายต่อเพื่อเพิ่มมูลค่า
ภายหลังจากที่ตลาดอสังหาฯ เริ่มฟื้นตัวในช่วงไตรมาสที่ 2/2558 นี้ ประกอบกับบริษัทฯ เล็งเห็นดีมานด์สะสมด้านที่อยู่อาศัยในย่านสุขุมวิท และกำลังซื้อจากต่างชาติที่มีเข้ามาโดยตลอด ทำให้ตัดสินใจเปิดตัวโครงการ ไฮด์ สุขุมวิท 11 ลักชัวร์รี่ คอนโด “Hyde Sukhumvit 11 Luxury Condo” ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 11 บนพื้นที่ 2 ไร่เศษ ในรูปแบบของคอนโดมิเนียม ไฮไรซ์ สูง 39 ชั้น 1 อาคาร และโลว์ไรซ์ สูง 8 ชั้น 1 อาคาร ขนาด 27-160 ตารางเมตร จำนวน 478 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 5 ล้านบาทขึ้นไป หรือราคาเฉลี่ยประมาณ 185,000 บาท/ตารางเมตร รวมมูลค่าโครงการประมาณ 4,000 ล้านบาท โดยได้เปิดพรีเซลล์ครั้งแรกไปเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 58 ขณะนี้มียอดจองแล้ว 40% ซึ่งมอบหมายให้บริษัท ฮาริสัน จำกัด (มหาชน) เป็นผู้บริหารงานขาย