ASTVผู้จัดการรายวัน - เอคิว ไม่หวั่นเศรษฐกิจชะลอตัว เดินหน้าเปิด 8 โครงการ มูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท ยอมรับเลื่อนเปิด 1 โครงการใหญ่ย่านรังสิตเหตุรออนุมัติ EIA เชื่อไตรมาส 3 สถานการณ์ตลาดกระเตื้องจากการลงทุนภาครัฐ ดอกเบี้ยต่ำ ล่าสุดเปิดตัว "เอคิว อาเรีย อโศก"
นายยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เอคิว เอสเตท จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมอสังหาริมทรัพย์เริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น ตามแนวโน้มภาวะเศรษฐกิจ จากการลงทุนโครงการภาครัฐเริ่มเห็นผลชัดเจนในไตรมาส 3 ทั้งในเรื่องโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ รวมถึงเงินบาทอ่อนค่า แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับความเชื่อมั่นผู้บริโภคว่าจะฟื้นตัวได้เร็วมากน้อยเพียงใด สถานการณ์การเมืองที่นิ่ง และการกำหนดวันเลือกตั้งที่มีความชัดเจน
"การที่ภาครัฐให้ความสําคัญที่จะพัฒนาระบบขนส่งมวลชนขนาดใหญ่ถือเป็นแรงผลักดันสําคัญที่ทําให้ภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยเกิดการ ขยายตัวอย่างเห็นได้ชัด ด้านผู้ประกอบการเองก็นําเสนอโปรดักส์สู่ตลาดอย่างหลากหลายเพื่อตอบโจทย์ความต้องการอย่างตรงจุดมากขึ้นกว่าในอดีต กลุ่มตลาดที่ยังเติบโตอย่างต่อเนื่องคือกลุ่มตลาดระดับกลางถึงบน ซึ่งซัพพลาย ณ ปัจจุบันยังถูก ดีมานด์ดูดซับอย่างรวดเร็ว หากพิจารณาในเรื่องราคาพบว่าขยับสูงขึ้นทุกปี และจากการสํารวจโดยหลายหน่วยงานพบว่า ในปี นี้ คอนโดมิเนียมในย่านทองหล่อ พร้อมพงษ์ อโศก มีความต้องการจากทั้งชาวไทยและต่างชาติ”นายยงยุทธ กล่าว
ในปีนี้บริษัทมีแผนพัฒนาโครงการใหม่จำนวน 9 โครงการ มูลค่ารวม 8,000 ล้านบาท แต่ได้มีเลื่อนเปิดโครงการออกไปจำนวน 1 โครงการ ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่ในย่านรังสิต มูลค่าโครงการ 2,750 ล้านบาท เนื่องจากต้องรอขออนุญาตจัดสรรก่อน จึงเลื่อนการเปิดขายโครงการดังกล่าวออกไปก่อน ทำให้คงเหลือโครงการเปิดใหม่จำนวน 8 โครงการ มูลค่ากว่า 5,250
โดยยังคงเป้าหมายยอดขายเดิมที่ 2,500 ล้านบาท ซึ่งในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมามียอดขายแล้ว 1,300 ล้านบาท ทั้งนี้คาดว่าครึ่งปีแรกนี้บริษัทจะมียอดขายที่ 2,000 ล้านบาท โดยมียอดขายรอรับรู้รายได้ราว 600 ล้านบาทและสต๊อกพร้อมโอนประมาณ 500 ล้านบาท
ล่าสุดบริษัทเปิดตัวโครงการ"เอคิว อาเรีย อโศก"สร้างอยู่บนเนื้อที่ 1 ไร่ 2 งาน 66 ตารางวา รวม 1 อาคาร สูง 29 ชั้น ขนาด 1 ห้องนอน จํานวน 315 ยูนิต ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 160,000 บาทต่อตารางเมตร มูลค่า 1,500 ล้านบาท คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในปี 2561 โดยจะเปิดลงทะเบียนแล้ววันนี้ และ เปิดให้จองอย่างเป็นทางการในวันที่ 27 มิ.ย.นี้ ทั้งนี้คาดว่าจะมียอดขายวันเปิดจองที่ประมาณ 50%
นอกจากนี้บริษัทมีแผนรับงานบริหารโครงการคอนโดมิเนียมของผู้ประกอบการรายอื่น ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจา 3 รายโดยมูลค่าโครงการที่บริษัทจะเข้าไปบริหารอยู่ที่ระดับ 800-1,000 ล้านบาท คาดว่าภายในปีนี้จะได้ข้อสรุป 1 ราย มูลค่าโครงการมากกว่า 1,000 ล้านบาท
"ในช่วงที่ผ่านมาหลายคนบอกว่าเหนื่อย และ ถือเป็นอีกปีที่เหนื่อยสำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ แต่หากเป็นมืออาชีพคงต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่อง แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานของความระมัดระวัง ซึ่งข้อดีในภาวะเช่นนี้ ซัพพลายในตลาดจะลดลงโดยอัตโนมัติ ซึ่งผู้ที่ควบคุมตลาดไม่ทรุดลงไปมากกว่านี้ คือ ธนาคาร ปัจจุบันธนาคราเข้ามดูแลและควบคุมการปล่อยสินเชื่อ ทำให้ซัพพลายในตลาดในภาวะที่ไม่ดีลดลง" นายยงยุทธกล่าว
นายยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เอคิว เอสเตท จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมอสังหาริมทรัพย์เริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น ตามแนวโน้มภาวะเศรษฐกิจ จากการลงทุนโครงการภาครัฐเริ่มเห็นผลชัดเจนในไตรมาส 3 ทั้งในเรื่องโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ รวมถึงเงินบาทอ่อนค่า แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับความเชื่อมั่นผู้บริโภคว่าจะฟื้นตัวได้เร็วมากน้อยเพียงใด สถานการณ์การเมืองที่นิ่ง และการกำหนดวันเลือกตั้งที่มีความชัดเจน
"การที่ภาครัฐให้ความสําคัญที่จะพัฒนาระบบขนส่งมวลชนขนาดใหญ่ถือเป็นแรงผลักดันสําคัญที่ทําให้ภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยเกิดการ ขยายตัวอย่างเห็นได้ชัด ด้านผู้ประกอบการเองก็นําเสนอโปรดักส์สู่ตลาดอย่างหลากหลายเพื่อตอบโจทย์ความต้องการอย่างตรงจุดมากขึ้นกว่าในอดีต กลุ่มตลาดที่ยังเติบโตอย่างต่อเนื่องคือกลุ่มตลาดระดับกลางถึงบน ซึ่งซัพพลาย ณ ปัจจุบันยังถูก ดีมานด์ดูดซับอย่างรวดเร็ว หากพิจารณาในเรื่องราคาพบว่าขยับสูงขึ้นทุกปี และจากการสํารวจโดยหลายหน่วยงานพบว่า ในปี นี้ คอนโดมิเนียมในย่านทองหล่อ พร้อมพงษ์ อโศก มีความต้องการจากทั้งชาวไทยและต่างชาติ”นายยงยุทธ กล่าว
ในปีนี้บริษัทมีแผนพัฒนาโครงการใหม่จำนวน 9 โครงการ มูลค่ารวม 8,000 ล้านบาท แต่ได้มีเลื่อนเปิดโครงการออกไปจำนวน 1 โครงการ ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่ในย่านรังสิต มูลค่าโครงการ 2,750 ล้านบาท เนื่องจากต้องรอขออนุญาตจัดสรรก่อน จึงเลื่อนการเปิดขายโครงการดังกล่าวออกไปก่อน ทำให้คงเหลือโครงการเปิดใหม่จำนวน 8 โครงการ มูลค่ากว่า 5,250
โดยยังคงเป้าหมายยอดขายเดิมที่ 2,500 ล้านบาท ซึ่งในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมามียอดขายแล้ว 1,300 ล้านบาท ทั้งนี้คาดว่าครึ่งปีแรกนี้บริษัทจะมียอดขายที่ 2,000 ล้านบาท โดยมียอดขายรอรับรู้รายได้ราว 600 ล้านบาทและสต๊อกพร้อมโอนประมาณ 500 ล้านบาท
ล่าสุดบริษัทเปิดตัวโครงการ"เอคิว อาเรีย อโศก"สร้างอยู่บนเนื้อที่ 1 ไร่ 2 งาน 66 ตารางวา รวม 1 อาคาร สูง 29 ชั้น ขนาด 1 ห้องนอน จํานวน 315 ยูนิต ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 160,000 บาทต่อตารางเมตร มูลค่า 1,500 ล้านบาท คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในปี 2561 โดยจะเปิดลงทะเบียนแล้ววันนี้ และ เปิดให้จองอย่างเป็นทางการในวันที่ 27 มิ.ย.นี้ ทั้งนี้คาดว่าจะมียอดขายวันเปิดจองที่ประมาณ 50%
นอกจากนี้บริษัทมีแผนรับงานบริหารโครงการคอนโดมิเนียมของผู้ประกอบการรายอื่น ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจา 3 รายโดยมูลค่าโครงการที่บริษัทจะเข้าไปบริหารอยู่ที่ระดับ 800-1,000 ล้านบาท คาดว่าภายในปีนี้จะได้ข้อสรุป 1 ราย มูลค่าโครงการมากกว่า 1,000 ล้านบาท
"ในช่วงที่ผ่านมาหลายคนบอกว่าเหนื่อย และ ถือเป็นอีกปีที่เหนื่อยสำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ แต่หากเป็นมืออาชีพคงต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่อง แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานของความระมัดระวัง ซึ่งข้อดีในภาวะเช่นนี้ ซัพพลายในตลาดจะลดลงโดยอัตโนมัติ ซึ่งผู้ที่ควบคุมตลาดไม่ทรุดลงไปมากกว่านี้ คือ ธนาคาร ปัจจุบันธนาคราเข้ามดูแลและควบคุมการปล่อยสินเชื่อ ทำให้ซัพพลายในตลาดในภาวะที่ไม่ดีลดลง" นายยงยุทธกล่าว