เนอวานาฯ โตก้าวกระโดดหลังร่วมทุนสิงห์ เผยปี 59 เล็งลงทุนพัฒนาโครงการมูลค่านับหมื่นล้านบาท ครึ่งปีหลังจ่อเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ตั้งเป้ารายได้แตะหมื่นล้านบาทภายในปี 61 ครึ่งหลังปี 58 เปิด 4 โครงการ มูลค่า 6,100 ล้านบาท มั่นใจยอดขาย 2,800 ล้านตามเป้า
นายศรศักดิ์ สมวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเนอวานา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า เนอวานา มีความมั่นคงเพิ่มมากขึ้นหลังเซ็นสัญญาแลกหุ้นกับบริษัทสิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งจะทำให้บริษัทมีศักยภาพในการลงทุนเพิ่มมากขึ้น โดยปี 2559 คาดว่าจะสามารถลงทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยมูลค่าโครงการรวมกว่า 10,000 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันซื้อที่ดินแล้ว 3 แปลง และทยอยซื้ออย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการลงทุนในอนาคต โดยปีนี้ตั้งงบซื้อที่ดิน 1,500 ล้านบาท
นอกจากนี้ ในปี 2559 บริษัทเตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ปัจจุบันอยู่ระหว่างเลือกบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน หรือ FA โดยคาดจะยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) แล้วเสร็จกลางปี 2559 และคาดว่าเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ภายในปลายปี 2559
“ภายหลังร่วมทุนกับสิงห์ เอสเตทฯ บริษัทจะสามารถโตได้อย่างก้าวกระโดด โดยคาดว่าจะสามารถลงทุนพัฒนาโคนงการได้ปีละไม่น้อยกว่า 1 หมื่นล้านบาทภายในปีหน้า และจะมีรายได้ปีละ 10,000 ล้านบาท ภายใน 3 ปี หรือในปี 2561” นายศรศักดิ์ กล่าว
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในครึ่งปีหลัง เตรียมเปิดตัวโครงการแนวราบ 4 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 6,100 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการบ้านเดี่ยวระดับไฮเอนด์ “บียอนด์ พระราม 2” บนถนนพระราม 2 มูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาท เนื้อที่ 42 ไร่ เป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้น ขนาดพื้นที่ใช้สอย 300-600 ตร.ม. จำนวน 137 ยูนิต ราคาตั้งแต่ 17-40 ล้านบาท และถือเป็นโครงการแรกที่บริษัทมีการขยายพื้นที่ออกไปยังพื้นที่กรุงเทพฯ โซนใต้ จากที่ผ่านมา ฐานลูกค้าหลักอยู่ที่กรุงเทพฯ ตะวันออก เช่น พระราม 9 รามอินทรา เกษตร-นวมินทร์
ส่วนอีก 3 โครงการ ได้แก่ บียอนด์ เกษตร-นวมินทร์ เฟส 2 เป็นบ้านเดี่ยว จำนวน 40 ยูนิต ราคา 18 ล้านบาท โครงการบียอนด์ เกษตร-นวมินทร์ จะเป็นบ้านเดี่ยวซีรีส์ใหม่ และแอส เวิร์ค บนถนนแจ้งวัฒนะ พัฒนาเป็นโฮมออฟฟิศ บนเนื้อที่กว่า 10 ไร่
ในปี 59 บริษัทเตรียมเปิดขายโครงการคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ริมแม่น้ำเจ้าพระย่าน คลองสาน ซึ่งเป็นโครงการเก่าก่อสร้างไปเพียงบางส่วนตามใบอนุญาตก่อสร้างเดิมเป็นอาคารสูง 49 ชั้น 2 อาคาร บริษัทจะปรับเป็น 1 อาคาร จำนวนกว่า 100 ยูนิต โดยจะเปิดขายในช่วงตั้งปี 59
“การลงทุนพัฒนาคอนโดฯ โครงการนี้จะเป็นโครงการแรก และโครงการสุดท้าย เพราะหากเนอวานาเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แล้วจะต้องไม่ทำธุรกิจทับซ้อน กับสิงห์ เอสเตท โดยเนอวานา จะพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบ ส่วนสิงห์ เอสเตท จะพัฒนาโครงการแนวสูง โรงแรม สำนักงาน เป็นต้น แต่เนื่องจากโครงการนี้เป็นโครงการที่ซื้อมาก่อนร่วมทุนจึงต้องพัฒนาต่อให้แล้วเสร็จ” นายศรศักดิ์ กล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา บริษัทมียอดขาย 1,000 ล้านบาท เนื่องจากยังไม่มีโครงการใหม่เปิดขาย โดยคาดว่าจะสามารถสร้างยอดขายได้ตามเป้าหมาย 2,800 ล้านบาทตามเป้าหมายที่วางเอาไว้จากการเปิดขายโครงการใหม่ และคาดว่าจะมีรายได้ 2,000 ล้านบาทตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ หรือโต 40% จากปี 2557
นายนริศ เชยกลิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ S กล่าวว่า บริษัทพร้อมเพิ่มเม็ดเงินลงทุนไม่จำกัด เพื่อให้เนอวานาบรรลุเป้าหมายมีรายได้ 10,000 ล้านบาท ในปี 2561 หากเนอวานายังไม่สามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้