สองคนร้ายใจเด็ดบุกชิงเงินสดจากธนาคารธนชาต พระราม 2 โดยไม่มีอาวุธและไม่ได้ปิดบังใบหน้า ขอเจ้าหน้าที่ธนาคารเบิกเงินไปใช้ก่อน ใช้เวลาเพียง 1 นาที ฉกเงินสดไปกว่า 4 แสนบาท โบกแท็กซี่หนีไปหน้าตาเฉย
วันนี้ (6 พ.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. พ.ต.ท.บรรพต บุญวิศิษฎ์ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สน.บางมด รับแจ้งเหตุวิ่งราวทรัพย์ในธนาคารธนชาต สาขาถนนพระราม 2 (ซอย 3) เลขที่ 54/9-12 แขวงบางมด เขตจอมทอง กทม. จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ท.ฉันทวิทย์ รามสูต รอง ผบช.น. พ.ต.อ.ฤชากร จรเจวุฒิ ผบก.น.8 พ.ต.อ.ประสงค์ อานมณี ผกก.สส.บก.น.8 พ.ต.ท.ธวัชชัย ศรีสุรางค์ รอง ผกก.ป.สน.บางมด พ.ต.ท.สุทศ รุ่งโรจน์ สวป.สน.บางมด เจ้าหน้าที่ กก.สส.บช.น. และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.)
ที่เกิดเหตุตั้งอยู่ภายในอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น ปลูกติดกัน 4 คูหา ชั้นล่างเปิดเป็นธนาคารธนชาต สาขาพระราม 2 (ซอย 3) พบพนักงานประจำเคาน์เตอร์ 2 คน และลูกค้าชาย 1 คนที่เข้ามาใช้บริการขณะเกิดเหตุยืนรอให้การอยู่ในอาการตกใจ
จากการสอบสวนนายมงคล เดชะโชควิวัฒน์ อายุ 66 ปี ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุนำเงินสดมาฝากกับพนักงานเคาน์เตอร์ที่ 1 จำนวน 20,000 บาท ระหว่างนั้นเห็นคนร้ายชาย 2 คน ทั้งคู่รูปร่างท้วม ตัดผมรองทรง คนแรกสวมเสื้อสีแดงคลุมทับด้วยแจ็กเกตแขนยาวสีดำ นุ่งกางเกงยีนส์ อีกคนสวมเสื้อแขนยาวสีเทา มีกระเป๋าเป้สะพายด้านหน้าสีน้ำเงิน โดยทั้งคู่มายืนทำท่าเหมือนเป็นลูกค้าที่จะมาติดต่อธุรกรรมกับทางธนาคารตามปกติ ก่อนที่คนร้ายรายแรกที่สวมเสื้อแจ็กเกตสีดำจะเดินเข้ามาประกบยืนคู่กับตนที่หน้าเคาน์เตอร์ จากนั้นคนร้ายรายที่ 2 ซึ่งสวมเสื้อแขนยาวสีเทาก็เดินเข้าไปด้านในเคาน์เตอร์หยิบเงินสดปึกใหญ่จากลิ้นชักของพนักงานเคาน์เตอร์ 1 ออกมาใส่ถุงกระดาษสีน้ำตาลแล้วยัดใส่กระเป๋าเป้ที่สะพายมา โดยคนที่สวมแจ็กเกตดำได้หันมาตบบ่าตนแล้วพูดว่า “ขอเบิกไปใช้ก่อนนะ” ก่อนที่คนร้ายทั้งคู่จะโบกรถแท็กซี่ สีชมพู หมายเลขทะเบียน ทษ 468 กทม.จากบริเวณหน้าธนาคารเพื่อหลบหนี โดยมุ่งหน้าไปทางถนนพระราม 2 ขาออก โดยคนร้ายไม่มีอาวุธ ใช้เวลาก่อเหตุประมาณ 1 นาที
ด้าน พล.ต.ต.ฉันทวิทย์กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าคนร้ายได้เงินสดไปจำนวน 420,000 บาท เบื้องต้นพบคนร้ายทั้งคู่อายุราว 35-45 ปี ไม่ได้อำพรางใบหน้า กล้องวงจรปิดจับภาพได้อย่างชัดเจนเมื่อเวลา 13.42 น.อาศัยเวลาที่พนักงานในเคาน์เตอร์ทำงานอยู่เพียง 2 คน ส่วนลูกค้าในธนาคารมีเพียงคนเดียวเข้ามาก่อเหตุคาดว่าคงมาดูลาดเลาเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว
ด้าน พ.ต.อ.ฤชากรกล่าวว่า ธนาคารแห่งนี้มีเพียงเจ้าหน้าที่ของธนาคารที่กำลังปฏิบัติงานเท่านั้น ไม่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) เนื่องจากใช้ระบบประกันภัยเพื่อป้องกันการต่อสู้และหลีกเลี่ยงการสูญเสีย อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจขอแนะนำไปยังผู้ประกอบการธนาคารว่าควรมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เนื่องจากหากมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอย่างน้อยก็ช่วยให้ผู้ที่คิดจะก่อเหตุเกรงกลัวในระดับหนึ่ง หลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้ประกอบการธนาคารจะมีการปรึกษาหารือเกี่ยวกับมาตรการในการป้องกันเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นอีกครั้ง สำหรับคนร้ายทั้ง 2 คนที่เรียกแท็กซี่หลบหนีไปนั้น ขณะนี้ทราบแล้วว่ารถแท็กซี่คันดังกล่าวอยู่ที่ไหน ทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดต่อกับโชเฟอร์แท็กซี่คันดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ต้องทำการตรวจสอบภาพจากกล้องวงปิดของทางธนาคาร พร้อมทั้งตรวจสอบเส้นทางหลบหนีของคนร้าย และสอบปากคำพยานที่อยู่ในที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป