แบงก์ธนชาต แจ้งผลประกอบการในไตรมาสแรกสามารถรักษาผลกำไรของไตรมาสนี้ได้ใกล้เคียงกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ NPL ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ยังเติบโตได้ช้า และอัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญทั้งหมดต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน
นายสมเจตน์ หมู่ศิริเลิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ของธนาคารธนชาต แถลงผลการดำเนินงานของธนาคารธนชาต ในไตรมาส 1/2558 ว่า ธนาคาร และบริษัทย่อยยังสามารถรักษาระดับผลกำไรในไตรมาสนี้ได้ใกล้เคียงกับไตรมาสเดียวกันปีก่อน โดยกำไรสุทธิในไตรมาสนี้อยู่ที่ 2,561 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสเดียวกันปีก่อน
โดยดอกเบี้ยนโยบายที่เพิ่งปรับลดลงจะเป็นประโยชน์ต่อธนาคารในไตรมาสถัดๆ ไป เราน่าจะได้เห็นภาพ Spread ที่กว้างขึ้น ถึงแม้ว่า Volume ของสินเชื่อจะหดตัวลงไปบ้าง เนื่องจากสินเชื่อเช่าซื้อยังมีปริมาณการชำระคืนที่สูงกว่าปริมาณการปล่อยสินเชื่อใหม่อยู่ แต่ธนาคารก็จะยังคงเน้นเรื่องการลด NPLลง และเพิ่ม Coverage Ratio ให้มากขึ้น และในปีนี้ในงบเฉพาะกิจการของธนาคารคาดว่า NPL จะอยู่ต่ำกว่า 3เปอร์เซ็นต์ และ Coverage Ratio อยู่ที่ระดับ 100 เปอร์เซ็นต์สำหรับรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยก็จะเพิ่มขึ้น และชดเชยรายได้ดอกเบี้ยที่หายไปจากปริมาณสินเชื่อที่หดลง จากการใช้ประโยชน์จากระบบเทคโนโลยีต่างๆ ที่เราได้พัฒนาขึ้นมาเพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน ด้านค่าใช้จ่ายก็ยังควบคุมต่อไป Credit Cost น่าจะอยู่ราวๆ 0.85 เปอร์เซ็นต์
นอกจากนี้ จะเห็นได้ว่า ธนาคารให้ความสำคัญต่อการบริหารสินเชื่อด้อยคุณภาพอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ NPL ของธนาคารในงบการเงินรวมในไตรมาส 1 ปี 2558 ปรับตัวลดลงมา 2,020 ล้านบาท หรือ 6.17เปอร์เซ็นต์ จากสิ้นปี 2557และ NPL Ratio ลดลงมาอยู่ที่ 3.95เปอร์เซ็นต์ จากในปีที่แล้วที่เคยอยู่ประมาณ 4.55 เปอร์เซ็นต์ ส่งผลให้อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ
ทั้งนี้ Coverage Ratio ปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ 89.76เปอร์เซ็นต์ แต่หากดูงบเฉพาะของธนาคารจะเห็นว่า NPLRatio อยู่ที่ 2.98 เปอร์เซ็นต์ และ Coverage Ratio ก็เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 93.33 เปอร์เซ็นต์ สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งมากขึ้นของคุณภาพสินทรัพย์ของธนาคาร