xs
xsm
sm
md
lg

รวบแล้วสองโจรหนุ่มใหญ่วิ่งราวทรัพย์แบงก์ธนชาต อ้างใช้หนี้นอกระบบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ASTVผู้จัดการ - รวบสองโจรหนุ่มใหญ่วิ่งราวทรัพย์ในแบงก์ธนชาต หลังตำรวจสอบปากคำโชเฟอร์แท็กซี่คันที่รับขึ้นรถ ไล่จากวงจรปิดจนรู้เส้นทางหลบหนี และ ตามไปตะครุบตัว อ้างหาเงินไปใช้หนี้นอกระบบ



จากกรณี 2 คนร้ายวิ่งราวทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 420,000 บาท ในธนาคารธนชาต สาขาถนนพระราม 2 (ซอย 3) เลขที่ 54/9-12 แขวงบางมด เขตจอมทอง กทม. ก่อนเรียกรถแท็กซี่ สีชมพู หมายเลขทะเบียน ทษ 458 กทม. หลบหนีไป เกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. ของวันที่ 6 พ.ค. ที่ผ่านมา

ต่อมาเมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (7 พ.ค.) ที่ธนาคารธนชาต สาขาถนนพระราม 2 (ซอย 3) พล.ต.อ.เรืองศักดิ์ จริตเอก รอง ผบ.ตร. (ปป2) พร้อมด้วย พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น.
พ.ต.อ.ฤชากร จรเจวุฒิ ผบก.น.8 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน บก.น.8 และ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.บางมด ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายอภิธัญญ์ ห่วงเอี่ยม หรือ ดำ อายุ 51 ปี อาชีพขับรถสองแถว และ นายสรกฤษ แซ่จิว หรือ บูรณ์ อายุ 49 ปี ชาว จ.สมุทรปราการ อาชีพพนักงานลูกจ้างรายวันโรงแรมแห่งหนึ่ง พร้อมของกลาง เงินสดจำนวน 219,000 บาท กระเป๋าเป้ 1 ใบ และเสื้อผ้าที่ใช้สวมใส่ในวันก่อเหตุ โดยสามารถจับกุมได้ที่เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 7 พ.ค. ที่ผ่านมา

พ.ต.อ.ฤชากร กล่าวว่า หลังจากที่คนร้ายลงมือก่อเหตุแล้วเรียกแท็กซี่หลบหนีไป ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน บก.น.8 และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สน.บางมด ได้สืบสวนจนพบรถแท็กซี่ที่คนร้ายเรียกหลบหนีไป พร้อมทั้งเรียกตัวโชเฟอร์แท็กซี่มาสอบปากคำเมื่อช่วงกลางดึกของวานนี้ (6 พ.ค.) จนทราบว่าคนร้ายทั้งสองได้โดยสารไปลงบริเวณหน้าสถานบริการอาบอบนวด ไอด้า ย่านสุขสวัสดิ์ ก่อนจะแยกย้ายกันหลบหนี ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงไล่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในจุดที่ผู้ขับขี่แท็กซี่ให้ปากคำไว้ จนรู้เส้นทางการหลบหนีของคนร้าย กระทั่งสามารถติดตามจับกุมตัว นายอภิธัญญ์ ได้บริเวณย่านซอยอนามัยงามเจริญ บางขุนเทียน กทม. ก่อนสอบสวนขยายผลจับกุม นายสรกฤษ ได้บริเวณปากซอยสุขสวัสดิ์ 53 ย่านพระประแดง จ.สมุทรปราการ พร้อมของกลางดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่สามารถติดตามเงินสดกลับคืนมาได้แล้ว 219,000 บาท โดยเงินส่วนที่เหลือคนร้ายอ้างว่าได้นำไปใช้หนี้นอกระบบที่ได้กู้ยืมมา ก่อนที่จะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัว ซึ่งหลังจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่จะขยายผลติดตามนำเงินส่วนที่เหลือกลับคืนมา

จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองคนให้การรับ สารภาพว่า ทั้งสองคนรู้จักกันมานานแล้ว และติดหนี้เงินกู้นอกระบบ ซึ่งไปกู้จากเจ้าหนี้ในอัตราร้อยละ 10 - 15 เพื่อนำมาใช้จ่ายในครอบครัว โดยติดหนี้อยู่คนละประมาณ 200,000 บาท จึงชักชวนกันมาก่อเหตุเพื่อหวังนำเงินไปใช้หนี้ดังกล่าว ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาเคยมาดูลาดเลาแล้วหลายครั้ง และมีการวางแผน 3 วันก่อนลงมือก่อเหตุในครั้งนี้

ด้าน พล.ต.อ.เรืองศักดิ์ กล่าวว่า หลังจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้ประกอบการธนาคารจะมีการปรึกษาหารือเกี่ยวกับมาตรการในการป้องกันเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นอีกครั้ง เพื่อป้องกันให้การก่ออาชญากรรมในลักษณะนี้ให้ลดน้อยลง โดยจะเน้นย้ำให้เจ้าหน้าเพิ่มความเข้มงวดในการตั้งด่านตรวจ พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนก็จะต้องเพิ่มความเข้มในการหาข่าว และต้องขอความร่วมมือจากภาคประชาชนให้ช่วยกันสอดส่อง สำหรับกรณีเกี่ยวกับเงินกู้นอกระบบนั้น หลังจากนี้จะมีการหารือว่าจะมีแนวทางในการแก้ไขอย่างไรต่อไป

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวคนร้ายทั้งสองรายทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ก่อนนำตัวคนร้ายไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป






กำลังโหลดความคิดเห็น