การยืนยันปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้ของเฟดกดดันราคาทองคำจ่อสร้างจุดต่ำสุดใหม่ต่อเนื่อง หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ แสดงถึงการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง ประเมินหากไม่หลุด 1,130 เหรียญ/ออนซ์ จะเห็นแรงพยายามตั้งฐานของราคาทองคำจากแรงซื้อจำนวนมากที่เข้ามาช่วยพยุง แต่หากหลุดอาจเห็นการสร้างจุดต่ำสุดใหม่แถว 1,120 เหรียญ/ออนซ์
“วรุต รุ่งขำ” ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส กล่าวถึงทิศทางราคาทองคำว่า ในช่วงที่ผ่านมา ราคาทองคำยังผันผวนอย่างต่อเนื่อง และยังสร้างจุดต่ำสุดครั้งใหม่ ซึ่งสาเหตุหนึ่งมาจากถ้อยแถลงของ นางเจเน็ต เยลเลน ประธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่แถลงนโยบายทางการเงินในรอบครึ่งปี และทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดต่อวุฒิสภา และสภาผูัแทนราษฎรสหรัฐฯ ซึ่งยังยืนถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่มีมากพอสำหรับการประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้ได้ ทำให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 2 เดือน และกดดันให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงทำจุดต่ำสุดใหม่ในรอบกว่า 8 เดือน
“แม้จะปรับตัวลงมา แต่ในประเทศไทยการปรับลงเป็นไปอย่างจำกัด ด้วยทิศทางของค่าเงินบาทที่อ่อนค่าขึ้นมาสวนทางต่อการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ราคาทองคำในประเทศอ่อนตัวลงมาไม่มากนัก”
ทำให้ประเมินว่า หากราคาไม่ปรับตัวลดลงแตะจุดต่ำสุด หรือสร้างจุดต่ำสุดใหม่ แสดงว่าราคาทองคำพยายามตั้งฐาน และรักษาระดับไว้ อีกทั้งยังต้องจับตาแรงซื้อของนักลงทุนต่อราคาทองคำ ซึ่งหากราคาซื้อยังไม่มากพอที่จะผลักดันราคาได้ อาจเห็นการเทขายทำกำไรจนทำให้เกิดการปรับตัวลงไปสร้างจุดต่ำสุดใหม่ได้เช่นกัน
“แนวรับต่ำสุด 1,140 เหรียญ/ออนซ์ของปีนี้ และที่ระดับ 1,130 เหรียญ/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในปีก่อน ถือเป็นโซนแนวรับสำคัญที่นักลงทุนต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด โดยหากราคาสามารถตั้งฐานได้ และมีการขยับขึ้นไปกว่า 30 เหรียญ/ออนซ์ จากแรงซื้อที่เข้ามามาก เชื่อว่าจะเป็นสัญญาณของเริ่มการชะลอปรับตัวลงของราคาทองคำ และอาจเกิดการเปลี่ยนทิศทางเป็นขาขึ้น แต่หากราคายังปรับตัวลงต่อสร้างจุดต่ำสุดใหม่ ราคาทองคำก็อาจปรับตัวลงได้อีก”
ทั้งนี้ ปัจจัยที่จะส่งผลการเคลื่อนไหวของราคาทองคำยังคงมุ่งเน้นไปที่การประกาศตัวเศรษฐกิจของสหรัฐฯ โดยเฉพาะตัวเลขการขอรับสวัสดิการว่างงาน ซึ่งหากยังปรับตัวลดลงอย่างแข็งแกร่ง ปัจจัยดังกล่าวจะสนับสนุนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐให้ปรับตัวขึ้น หมายถึงจะกดดันให้ราคาทองคำปรับตัวลงไปอีก
ดังนั้น กลยุทธ์ หากราคาทองคำรีบาวนด์ปรับตัวขึ้นแต่ไม่ส่ามารถขึ้นไปยืนเหนือ 1,150-1,160 เหรียญ/ออนซ์ได้ นักลงทุนที่มี Long Position หรือมีสถานะซื้ออยู่อาจจะต้องทยอยแบ่งทองคำออกขาย หรือเปิดสถานะขายเพิ่มขึ้นในระยะสั้น หวังการอ่อนตัวลงมาทดสอบในโซนแนวรับ 1,140-1,130 เหรียญ/ออนซ์ เพื่อปิดสถานะทำกำไรระยะสั้น
อย่างไรก็ตาม หากราคาปรับตัวลงมา และไม่หลุดโซนแนวรับ 1,130 เหรียญ/ออนซ์ นักลงทุนระยะยาวที่รับความเสี่ยงได้ อาจแบ่งเงินบางส่วนเข้าซื้อเพื่อเข้าราคาทองคำในโซนแนวรับดังกล่าว รับการตั้งฐานของราคาอีกครั้ง เพราะประเมินว่าหากราคาทองคำไม่ต่ำกว่า 1,130 เหรียญ/ออนซ์ การอ่อนตัวของราคาทองคำอาจจะไม่มากนัก ขณะเดียวกัน หากราคาเริ่มขยับขึ้นมาอยู่ในโซน 1,160 เหรียญ/ออนซ์ได้ ก็มีโอกาสได้เห็นการปรับตัวมาอยู่แถวระดับ 1,180 เหรียญ/ออนซ์ได้เช่นกัน