อาจเห็นการรีบาวนด์ของราคาทองคำบ้างหลังปรับตัวลงมาสร้างราคาต่ำสุด ชี้ทิศทางค่าเงินยูโร และเศรษฐกิจจีนเป็นปัจจัยผลักดันราคา ขณะที่ฝั่งสหรัฐฯ ยังเป็นปัจจัยกดดันต่อเนื่อง วางกรอบแนวรับ 1,140-1,110 เหรียญ/ออนซ์ ส่วนแนวต้าน 1,180-1,200 เหรียญ/ออนซ์
“วรุต รุ่งขำ” ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส ประเมินทิศทางราคาทองคำในช่วงนี้ว่า สำหรับราคาทองคำยังคงสร้างระดับต่ำสุดไปอย่างต่อเนื่อง โดยมีแรงกดดันจากทิศทางสกุลเงินยูโรที่มีการอ่อนตัวลง หลังจากที่สถานการณ์ในกรีซยังคงมีความไม่ชัดเจน แต่ราคาทองคำยังคงมีการฟื้นตัวได้บ้างหลังจากสถานการณ์ในกรีซคลี่คลาย และมีการเสนอแผนปฏิรูปเศรษฐกิจจากทางการกรีซอย่างจริงจัง
“ต้องจับตามองว่าสถานการณ์ในกรีซจะยุติลงอย่างไร เพราะราคาทองคำมักจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกันกับสกุลเงินยูโร ขณะเดียวกัน ราคาทองคำถูกกดดันจากแนวโน้มเศรษฐกิจในฝั่งสหรัฐฯ ที่ยังคงสดใส แต่อย่างไรแล้วราคาทองคำยังคงพอฟื้นตัวได้บ้าง หลังรายงานการประชุมของคณะกรรมการ FOMC บ่งชี้ว่า คณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) บางท่านมีความเห็นว่า ต้องการรอดูทิศทางตัวเลขเศรษฐกิจในฝั่งสหรัฐฯ ให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น รวมถึงอัตราเงินเฟ้อ ตัวแรงการจ้างงาน และทิศทางเศรษฐกิจในระยะถัดไป เพื่อใช้ตัวเลขดังกล่าวประกอบการประเมินปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ดังนั้น จึงเห็นว่าราคาทองคำยังคงมีทิศทางที่ไม่ชัดเจนมากนัก”
ทั้งนี้ ปัจจัยที่ยังคงต้องจับตามองยังคงเป็นสถานการณ์ในกรีซ ซึ่งจะส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของสกุลเงินยูโร โดยต้องจับตากรีซว่ายังคงเป็นสมาชิกของกลุ่มยูโรโซนต่อไปหรือไม่ หากยังคงเป็นอยู่ และสกุลเงินยูโรเริ่มฟื้นตัวขึ้น อาจจะเป็นปัจจัยตัวหนึ่งที่หนุนให้ราคาทองคำขยับขึ้นได้ต่อ โดยจะมีการประชุมของคณะกรรมการ คณะรัฐมนตรีของกลุ่มยูโรโซน หรือยูโรกรุ๊ป ประกอบกับจะมีการเปิดเผยอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป รวมถึงการแถลงการณ์ประธานธนาคารกลางยุโรป นายมาริโอ้ ดาร์กี้
นอกจากนี้ ตัวเลขเศรษฐกิจในฝั่่งจีนจะมีการเปิดเผยหลายตัว โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์มวลรวม หรือ GDP ของจีน อาจจะต้องจับตาดูยอดเศรษฐกิจของจีนฟื้นตัวขึ้นมากน้อยเพียงใด หากเศรษฐกิจจีนมีการกระเตื้องมากขึ้นหลังจากที่จีนมีการใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ปัจจัยดังกล่าวอาจจะกลับมาเป็นปัจจัยหนุนพยุงราคาทองคำไว้ ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจในฝั่งสหรัฐฯ ยังคงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ยังคงส่งผลต่อการขยับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
สิ่งน่าติดตามในตอนนี้คือ คำแถลงต่อรัฐบาลของ นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด จะมีการส่งสัญญาณนโยบายการเงินในส่วนของระยะเวลาถัดไปในช่วงครึ่งปีหลัง รวมถึงแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย อัตราการจ้างงาน และภาพรวมเศรษฐกิจโดยรวม ซึ่งนักลงทุนอาจจะใช้ตัวเลขของการแถลงการณ์ดังกล่าว หรือการตอบคำถามดังกล่าวเพื่อใช้เป็นการคาดการณ์ของการขยับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในสัปดาห์นี้ YLG ประเมินในส่วนของโซนแนวรับไว้ที่บริเวณ 1,140-1,100 เหรียญ/ออนซ์ ขณะที่กรอบด้านบนประเมินไว้ที่บริเวณ 1,180-1,200 เหรียญ/ออนซ์ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของแนวโน้ม หรือโมเมนตัม เนื่องจากราคาทองคำมีการทำไว้ในระดับต่ำสุดครั้งใหม่ในรอบเดือน และในรอบไตรมาส ทำให้มุมมองของตลาดยังคงเป็นลบอยู่ เมื่อราคาของคำมีการดีดตัวขึ้น หรือรีบราวนด์ขึ้น อาจจะต้องจับตาดูในส่วนของโซนแนวต้านในระดับ 1,180-1,200 เหรียญ/ออนซ์ หากราคายังคงไม่สามารถทรงตัวอยู่ในระดับดังกล่าวได้ อาจจะมีการแบ่งทองคำออกขาย ขณะที่การเข้าซื้ออาจจับตาดูที่โซนแนวรับระดับ 1,150-1,140 เหรียญ/ออนซ์ ากราคาทองคำสามารถตั้งฐานได้สามารถเข้าไปซื้อลงทุนระยะสั้นเพื่อหวังการดีดตัว แต่หากตั้งฐานไม่ได้อาจจะชะลอการเข้าซื้อไปยังโซนแนวรับถัดไป