ความคลุมเครือของสถานการณ์ในกรีซไม่ส่งผลดีต่อทองคำ เหตุหลายฝ่ายเชื่อเจ้าหนี้-ลูกหนี้ตกลงกันได้ พร้อมแนะติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจจีน หากยังไม่ฟื้นตัวส่อเข้ามากดดันราคาทองคำเพิ่ม ประเมินหากยืนในระดับ 1,150 เหรียญ/ออนซ์อย่างแข็งแกร่งมีโอกาสดีดตัวทำกำไรระยะสั้น แต่หากหลุดต้องมองไปที่1,120 เหรียญ/ออนซ์ คือโซนทีน่าสะสม
“วรุต รุ่งขำ” ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอรส์ กล่าวว่า จากสถานการณ์ในกรีซที่ยังคมคลุมเครือ พบว่า ราคาทองคำกลับไม่ตอบสนองในเชิงบวกต่อสถานการณ์มากนัก เพราะยังไม่มีความชัดเจน และเชื่อกันว่าทางเจ้าหนี้กับลูกหนี้ยังสามารถเจรจากันได้ ทำให้ไม่เกิดแรงซื้อเข้ามาฝั่งทองคำมากนัก ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจในฝั่งสหรัฐฯ แม้จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน และตัวเลขในภาคการเกษตรจะมีทิศทางที่ดีขึ้น แต่ตัวเลขดังกล่าวยังอยู่ในอัตราที่ชะลอตัวลงส่งผลให้ราคาทองคำฟื้นตัวได้บ้าง
“ทิศทางเหล่านี้ยังเป็นสิ่งที่นักลงทุนต้องจับตา ไม่ว่าจะเป็นแนวโน้มเศรษฐกิจในฝั่งสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่ง และมีผลเชิงลบต่อราคาทองคำ ขณะที่สถานการณ์ในกรีซไม่ได้มีพัฒนาการที่ดีขึ้น และนักลงทุนเริ่มกังวลต่อการหลุดออกจากกลุ่มยูโรโซนของกรีซมากขึ้น ประเด็นดังกล่าวอาจจะมีผลบวกต่อราคาทองคำมีการดีดตัวขึ้นได้อีกครั้ง”
นอกจากนี้ ต้องติดตามรายงานของคณะกรรมการ FOMC ซึ่งอาจจะช่วยให้ทราบถึงแนวโน้มต่อความชัดเจนในการปรับขึ้นอัตราเดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)ได้มากขึ้น แต่เรื่องดังกล่าวจะไม่มีผลต่อราคาทองคำมากนัก ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจในฝั่งจีน จะมีดัชนีราคาผู้ผลิต และดัชนีราคาผู้บริโภคซึ่งเป็นตัวเลขที่ต้องจับตาดูว่า มีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นมากแค่ไหน หากปรับตัวดีขึ้นจะสะท้อนทิศทางเศรษฐกิจของจีนที่ปรับตัวดีขึ้น และหากทรงตัว หรือลดลงจะสะท้อนถึงทิศทางเศรษฐกิจของจีนที่ยังคงชะลอตัว ซึ่งจะมีผลเชิงลบต่อทิศทางราคาทองคำ
“การดีดของราคาทองคำรอบนี้อาจต้องจับตาโซนแนวต้าน 1,200-1,210 เหรียญ/ออนซ์ หากขยับขึ้นไปไม่ถึงโซนดังกล่าวได้อาจเห็นการปรับตัวลงมาเพื่อสร้างใหม่ โดยมีแนวรับสำคัญ 1,150 เหรียญ/ออนซ์ ซึ่งอาจเห็นการรับไม่อยู่จนที่ระดับ 1,140 เหรียญ/ออนซ์ และหากยังลงไปอีกอาจได้เห็นที่ 1,120 เหรียญ/ออนซ์”
โดยนักลงทุนที่ต้องการสะสมทองคำเพิ่มอาจต้องจับตาการเคลื่อนไหวของราคาทองคำที่ 1,150 เหรียญ/ออนซ์อย่างใกล้ชิด หากราคาตั้งฐานได้ดี สามารถเข้าไปซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้นจากการดีดตัวอีกครั้ง แต่หากราคาหลุดโซนดังกล่าวจำเป็นต้องชะลอการเข้าซื้อ และไปรอทยอยสะสมที่บริเวณ 1,120 เหรียญ/ออนซ์