xs
xsm
sm
md
lg

YLG ชี้ทองมีท่าทีฟื้น หลังเฟดไม่เร่งขึ้น ดบ. เตือนระวังบาทแข็ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“วายแอลจี” ชี้ภาพรวมทองคำเริ่มฟื้น หลังเฟดอาจไม่รีบเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แนะจับตาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ และแผนการใช้ QE ทางฝั่งยุโรป ชี้ช่วงนี้ลงทุนได้ในแบบระยะสั้น ปล่อยขายทำกำไรเมื่อราคาปรับขึ้น พร้อมเตือนติดตามสถานการณ์ค่าเงินบาทที่แข็งค่าจัด จนทำให้ทองคำไทยไม่ขยับตามทองคำโลก

“วรุต  รุ่งขำ” ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส กล่าวถึงทิศทางราคาทองคำ ว่า ราคาทองคำเริ่มฟื้นตัวขึ้นหลังจากหยุดยาวในช่วงเทศกาลตรุษจีน นอกจากนี้ ยังได้รับแรงสนับสนุนจากประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่แถลงต่อสภาครองเกส ที่ยังไม่การกำหนดอย่างชัดเจนต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งยังวิตกกังวลต่อการถูกซักฟอกในด้านความโปร่งใสต่อการดำเนินงานของเฟด ทำให้เชื่อว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะไปเกิดขึ้นเมื่อผ่านกลางปีไปแล้ว หรืออาจเกิดขึ้นในช่วงปลายปี จึงทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลดลง และสินค้าโภคภัณฑ์อย่างทองคำจึงได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น
 
นอกจากนี้ ราคาทองคำยังได้รับแรงสนับสนุนเพิ่มจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาแบบไร้ทิศทาง เช่น ในส่วนของดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (CPI) ซึ่งไม่ราคาน้ำมัน และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ยังคงมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่หากรวมในส่วนของราคาน้ำมันที่ลดลงด้วย พบว่า ดัชนี CPI ยังมีการปรับตัวลดลง รวมไปถึงตัวเลขในภาคอสังหาริมทรัพย์ และภาคแรงงานของหสรัฐฯ ก็ยังไม่สดใสมากนัก ทำให้นักลงทุนยังเฝ้าจับตาเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิดเพื่อประมวลทิศทางค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ และราคาทองคำ

โดยปัจจัยที่ต้องจับตายังเป็นในเรื่องตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เช่น ตัวเลขการจ้างงานในภาคเอกชน  รวมไปถึงการประชุมของธนาคารกลางยุโรปที่จะต้องติดตามแผนการอัดฉีดสภาพคล่อง (QE) ซึ่งหลายฝ่ายคาดการณ์ว่า แผนดังกล่าวอาจไม่ได้ผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจในฝั่งยุโรปให้กระเตื้องมากขึ้น อีกทั้งยังต้องติดตามอัตราการจ้างานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ด้วยเช่นกัน เพราะหากตัวเลขออกมาดี ปัจจัยดังกล่าวจะกดดันให้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดเร็วขึ้น และจะมีผลกดดันให้ราคาทองคำปรับตัวลดลง แต่หากออกมาไม่สดใสมากนัก อาจสนับสนุนให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้น
 
“กลยุทธ์ลงทุน เรายังแนะนำเป็นการลงทุนระยะสั้นหาอาศัยจับจังหวะเข้าทำกำไรในการแกว่งตัวขึ้น โดยมีแนวรับ 1,180-1,140 เหรียญ/ออนซ์ โดยเมื่อราคามีการย่อตัวลงมาออกต้องจับตาดูว่าราคาหลุดแนวรับดังกล่าวหรือไม่ ถ้าไม่หลุดสามารถเข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรในยามที่ราคาดีดตัวขึ้น และเมื่อไม่หลุดให้มองกรอบแนวต้านที่ 1,225-1,250 เหรียญ/ออนซ์ โดยหากดีดตัวขึ้น และไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านดังกล่าวได้ อาจต้องทยอยแบ่งทองคำออกขายทำกำไร เพราะโดยรวมทิศทางของราคาทองคำยังอยู่ในเชิงลบ ดังนั้น เมื่อราคามีการดีดตัวขึ้นย่อมจะเจอแรงเทขายทำกำไรออกมา ไม่เพียงแค่นี้นักลงทุนยังควรต้องจับตาทิศทางของค่าเงินบาทประกอบการลงทุนด้วย หลังสัปดาห์ก่อนค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นมาค่อนข้างมาก ทำให้แม้ราคาทองคำในต่างประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้นมามาก แต่ราคาในประเทศไม่ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นตาม”
กำลังโหลดความคิดเห็น