PAE ไม่หวั่นเสียงคัดค้านจากผู้ถือหุ้น เดินหน้าแผนเพิ่มทุนขาย RO และ PP 1,500 ล้านบาท ต่อเพื่อขยายธุรกิจ Oil and Gas พร้อมลงทุนธุรกิจใหม่ด้านน้ำประปา พลังงานทางเลือก ระบุขาย PP เน้นกลุ่มทุนที่เห็นศักยภาพธุรกิจ เป็นพันธมิตรที่ดีในอนาคต เตรียมเสนอผู้ถือหุ้นพิจารณา 29 ก.ค.นี้ ขณะที่ภาพรวมธุรกิจตั้งเป้าปี 2558 พลิกกลับมาทำกำไร
นางอุไรรัตน์ บุญอากาศ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.พีเออี หรือ PAE กล่าวถึงแผนระดมทุน โดยเสนอขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิม (RO) จำนวน 5,541,481,928 หุ้น อัตราส่วน 1 หุ้นเดิมต่อ 2 หุ้นใหม่ ราคา 0.20 บาท/หุ้น และเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้บุคคลในวงจำกัด (PP) จำนวน 2,000 ล้านหุ้นว่า บริษัทตั้งเป้าหมายได้รับเงินระดมทุนในครั้งนี้ประมาณ 1,500 ล้านบาท โดยมีวัตถุประสงค์การใช้เงิน ประกอบด้วย การขยายธุรกิจเดิมด้านการบริการในอุตสาหกรรมน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และปิโตรเคมี ซึ่งจะต้องมีการปรับปรุงโรงประกอบทั้ง 3 แห่งที่ลานกระบือ ระยอง และสงขลา รวมทั้งจัดซื้อจัดหา เครื่องมืออุปกรณ์ เครื่องจักร เพื่อใช้ในกิจการและให้เช่าแก่ลูกค้า ใช้เงินทุนประมาณ 200 ล้านบาท
นอกจากนี้จะนำเงินไปใช้รองรับการขยายการลงทุนในธุรกิจใหม่ อาทิ การบริการสาธารณูปโภคด้านน้ำประปา น้ำดิบเพื่อใช้ในอุตสาหกรรม ด้านพลังงาน พลังงานทางเลือกทั้งในและต่างประเทศ โดยเบื้องต้นจะลงทุนในระบบผลิตน้ำประปา ระบบท่อส่งน้ำดิบ สถานีสูบน้ำ เพื่อการอุตสาหกรรม จำนวนประมาณ 800 ล้านบาท ใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 2 ปี กรณีที่มีเงินทุนเหลือจากกรณีดังกล่าวบริษัทมีความสนใจจะนำเงินไปลงทุนในโครงการด้านพลังงานและพลังงานทางเลือกอื่นๆ ส่วนที่เหลือจำนวนประมาณ 500 ล้านบาทจะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของกิจการ
“จากผลประกอบการไตรมาส 1 ปีนี้ ผลประกอบของบริษัทยังมีขาดทุนประมาณ 33 ล้านบาทและส่วนของผู้ถือหุ้นติดลบประมาณ 3 ล้านบาท หากปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไป เชื่อว่าไม่ส่งผลดีต่อบริษัทและผู้ถือหุ้นทั้งหมดอย่างแน่นอน แต่หากการเพิ่มทุนครั้งนี้สำเร็จก็จะสามารถแก้ปัญหาเรื่องความเพียงพอของส่วนของผู้ถือหุ้นได้ ตลอดจนสามารถนำเงินไปพัฒนาและขยายกิจการตามแผนงานที่วางไว้ได้ตามวัตถุประสงค์ ซึ่งบริษัทจะนำเรื่องดังกล่าวเสนอขออนุมิติต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นในวันพุธที่ 29 กรกฎาคมนี้ กรณีที่ไม่ได้รับอนุมัติการเพิ่มทุนจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ก็จะส่งผลให้บริษัทไม่สามารถระดมทุน เพื่อนำไปดำเนินการตามวัตถุประสงค์ได้ ซึ่งจะมีผลกระทบต่อผลประกอบการที่อาจจะขาดทุนต่อเนื่องไปอีก จนทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้นบริษัทติดลบเพิ่มเติม หากเป็นเช่นนั้น PAE ก็จะถูกห้ามซื้อขาย และบริษัทต้องเดินเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ”
ส่วนกรณีความกังวลเกี่ยวกับการเสนอขาย PP ของบริษัท ให้กับผู้ลงทุนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งที่จะเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ และสร้างผลกระทบให้กับผู้ถือนั้น บริษัทได้วางนโยบายการเสนอขายหุ้น PP ครั้งนี้ให้กับผู้ลงทุนที่มีศักยภาพด้านการเงิน มีความต้องการลงทุนเนื่องจากเห็นศักยภาพในการปรับปรุงกิจการด้าน Oil and Gas ซึ่งเป็นธุรกิจที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญพิเศษ อีกทั้งสามารถเป็นพันธมิตรที่ต่อยอดทางธุรกิจให้กับบริษัทได้ในอนาคต
ขณะที่นายรัฐชัย ภิชยภูมิ กรรมการบริหาร PAE กล่าวเสริมว่า บริษัทมีความมั่นใจว่าผลประกอบการของปี 2557 จะเป็นปีที่ต่ำที่สุดแล้ว คาดว่า ผลประกอบการต่อจากนี้ไปจะเริ่มปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะบริษัทได้รับรู้ผลขาดทุนและมีการตั้งสำรองหนี้สูญของธุรกิจรับเหมาก่อสร้างไปหมดแล้ว ซึ่งในช่วงต่อจากนี้ บริษัทจะมุ่งเน้นและขยายธุรกิจด้านน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ปิโตรเคมี การตรวจสอบแบบไม่ทำลาย งานบริการน้ำประปาและน้ำดิบเพื่อการอุตสาหกรรม รวมทั้งพลังงานและพลังงานทางเลือก โดยตั้งเป้าหมายผลประกอบการพลิกเป็นกำไรในปีนี้
ทั้งนี้ ธุรกิจในกลุ่มของบริษัท ประกอบด้วย PAE ให้บริการด้านธุรกิจน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ปิโตรเคมี บมจ. พีเออี เทคนิคอล เซอร์วิส ให้บริการด้านตรวจสอบแบบไม่ทำลาย และการออกใบรับรองคุณภาพงาน (PAE ถือหุ้น 72%) บจก.พีพีเอส เอนเนอยี แอนด์ มารีน ให้บริการด้านการผลิตน้ำประปา น้ำดิบเพื่อการอุตสาหกรรม เครื่องผลิตน้ำประปาเคลื่อนที่ และระบบรีไซเคิลน้ำ (PAE ถือหุ้น 68%) บจก. พีเออี เฟดเดอรัล อินเตอร์เนชั่นแนล นำเข้าและจำหน่ายวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องจักร ที่ใช้ในอุตสาหกรรมน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และปิโตรเคมี (PAE ถือหุ้น 55%)