หุ้นปิดลบ 2.25 จุด ภาพรวมดัชนีแกว่งในกรอบแคบ ซึ่งมีแรงขายในกลุ่มแบงก์ และพลังงาน โดยมีแรงซื้อกลุ่มรับเหมาฯ ช่วยพยุงตลาด ลุ้นข่าวดีกรีซวันพรุ่งนี้ น่าจะออกมาในเชิงบวก แนวโน้มดัชนีฯ ยังคงเคลื่อนไหวแกว่งตัวในกรอบแคบ โดยมีแนวต้านบริเวณ 1,500 จุด และแนวรับที่ 1,480 จุด
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (14 ก.ค.) ดัชนีหุ้นไทยปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,488.40 จุด ลดลง 2.25 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.15% มูลค่าการซื้อขาย 30,503.55 ล้านบาท โดยภาพรวมในวันนี้ ดัชนีแกว่งตัวในกรอบแคบ ทั้งแดนบวกและแดนลบ ดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ระดับ 1,494.96 จุด และจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,487.01 จุด
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบแคบทั้งในแดนบวกและลบ แรงขายมีออกมาในหุ้นกลุ่มแบงก์ที่คาดว่า นักลงทุนกังวลผลการดำเนินงานไตรมาส 2/58 ที่กำลังทยอยประกาศออกมา โดยมองว่า การปล่อยสินเชื่ออาจชะลอตัว และยอดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) เพิ่มขึ้น ซึ่งล่าสุด บมจ.ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป (TISCO) แจ้งผลประกอบการไตรมาส 2/58 ออกมาต่ำกว่าตลาดคาดเล็กน้อย
นอกจากนี้ ยังมีแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงานที่ได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบอ่อนตัวลง หลังจากมีรายงานว่า อิหร่านและ 6 ชาติมหาอำนาจของโลกได้บรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์แล้วในวันนี้ ซึ่งจะนำไปสู่การยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน และส่งผลให้อิหร่านส่งออกน้ำมันในตลาดโลกได้
อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ยังมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงภาคบ่ายหลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้มีมติอนุมัติโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) ของกรมทางหลวง 3 เส้นทาง มูลค่าการลงทุนรวมถึง 1.6 แสนล้านบาท ซึ่งแรงซื้อดังกล่าวเป็นปัจจัยที่ช่วยประคองตลาดได้บ้าง
ส่วนแนวโน้มการซื้อขายวันพรุ่งนี้ (15 ก.ค.) คาดว่า ดัชนียังคงเคลื่อนไหวแกว่งตัวในกรอบแคบ โดยมีแนวต้านบริเวณ 1,500 จุด และแนวรับที่ 1,480 จุด เชื่อว่า นักลงทุนต่างชาติน่าจะยังคงขายต่อเนื่องหลังค่าเงินบาท/ดอลลาร์สหรัฐยังมีทิศทางอ่อนค่า ขณะที่ยังต้องรอดูปัจจัยจากทางกรีซเพิ่มเติม เนื่องจากนายกรัฐมนตรีกรีซเตรียมยื่นร่างกฎหมายการรัดเข็มขัดต่อรัฐสภาวันนี้ และสมาชิกรัฐสภากรีซจะลงคะแนนเสียงว่าจะอนุมัติร่างกฎหมายดังกล่าวหรือไม่ในวันพรุ่งนี้