พีเออี (ประเทศไทย) เผยภาพรวมครึ่งปีแรกส่งสัญญาณบวก เดินหน้าธุรกิจ Oil and Gas เต็มสูบ ลุ้นผลประมูลงานใหม่เพิ่ม มั่นใจทั้งปีพลิกทำกำไร รายได้รวมไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท พร้อมลุยปรับปรุงกิจการ ลดต้นทุน เพิ่มกำไรขั้นต้น และขยายธุรกิจใหม่ หวังทยอยล้างขาดทุนสะสม เตรียมเสนอผู้ถือหุ้นขาย RO และ PP ระดมทุนสำหรับหมุนเวียนในกิจการ
นายรัฐชัย ภิชยภูมิ กรรมการบริหาร บริษัท พีเออี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ PAE เปิดเผยถึงภาพรวมการดำเนินงานของบริษัทในช่วงครึ่งแรกของปี 58 ว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลจากการมุ่งเน้นดำเนินงานในธุรกิจหลักด้านการประกอบชิ้นส่วนอุปกรณ์โครงสร้างเหล็กท่อใช้กับธุรกิจ Oil and Gas และงานบริการซ่อมบำรุง ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งปีแรก PAE เข้ารับงานโครงการใหม่ จำนวน 5 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 100 ล้านบาท และมีมูลค่างานในมือที่อยู่ระหว่างการดำเนินงาน (Backlog) คิดเป็นมูลค่ารวม 1,500 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้ในช่วงครึ่งหลังของปีต่อเนื่องไปจนถึงปี 59
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังอยู่ระหว่างการเข้าประมูลงานใหม่เพิ่มเติมคิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 1 พันล้านบาท ซึ่งบริษัทตั้งเป้าหมายเข้ารับงานใหม่เพิ่มอีก 50% ของมูลค่างานที่ประมูลใหม่ดังกล่าว
“ผลการดำเนินงานของบริษัทผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในปี 2557 ซึ่งมีผลขาดทุนจำนวน 635 ล้านบาท เนื่องจากมีการตั้งสำรองโครงการรับเหมาก่อสร้างอาคารที่เกิดขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา จำนวนมาก และไม่มีผลกระทบมาในปีนี้แล้ว ปัจจุบันเรามุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจด้าน Oil and Gas เป็นหลัก ทำให้ผลการดำเนินงานค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเชื่อว่าในปีนี้ผลประกอบการจะเริ่มพลิกกลับมาเป็นกำไรได้ ขณะที่รายได้รวมของบริษัทจะอยู่ที่ประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท” นายรัฐชัย กล่าว
ส่วนแผนการล้างขาดทุนสะสมจำนวนประมาณ 2,000 ล้านบาท ของบริษัท ส่วนหนึ่งจะทยอยลดขาดทุนสะสมโดยเร่งเดินหน้าธุรกิจหลักให้มีกำไร ลดต้นทุน ปรับปรุงการดำเนินงานในส่วนต่างๆ ให้มีความสามารถในการทำกำไรสูงขึ้น ตลอดจนขยายการลงทุนในธุรกิจใหม่ในลักษณะของการร่วมทุน เพื่อขยายฐานรายได้ และกำไรของบริษัทให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง
โดยล่าสุด บริษัทได้เข้าซื้อหุ้นของบริษัท พีพีเอส เอนเนอยี แอนด์ มารีน จำกัด ในสัดส่วน 67.77% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 150 ล้านบาท คิดเป็นเงินลงทุนจำนวนประมาณ 82 ล้านบาท เพื่อร่วมดำเนินธุรกิจวางท่อและจำหน่ายน้ำประปาและน้ำดิบในนิคมอุตสาหกรรมภาคตะวันออก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินโครงการ คาดว่าจะแล้วเสร็จรับรู้รายได้ในปี 2560 โดยบริษัทประมาณการรับรู้รายได้จากโครงการดังกล่าวอยู่ที่ประมาณ 200 ล้านบาท/ปี
สำหรับแผนการเพิ่มทุนของบริษัทในวันที่ 29 ก.ค.นี้ ที่ประชุมผู้ถือหุ้นจะพิจารณาอนุมัติการออกหุ้นเพิ่มทุนเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม (RO) จำนวน 5,541,481,928 หุ้น อัตราส่วน 1 หุ้นเดิมต่อ 2 หุ้นใหม่ ราคาเสนอขาย 0.20 บาท/หุ้น และเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้บุคคลในวงจำกัด (PP) อีกจำนวน 2,000 ล้านหุ้น โดยวัตถุประสงค์ของการระดมทุนในครั้งนี้บริษัทต้องการนำเงินมาใช้เป็นทุนหมุนเวียนเพื่อการปรับปรุง และขยายกิจการ
“ก่อนหน้านี้ บริษัทได้เพิ่มทุนขาย PP ราคา 0.60 บาท/หุ้นไปแล้ว 2 ครั้ง ได้รับเงินระดมทุนรวมทั้งสิ้นประมาณ 630 ล้านบาท ซึ่งบริษัทได้นำไปใช้ในการชำระหนี้ให้แก่สถาบันการเงิน ชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้การค้า และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ ซึ่งส่งผลให้ PAE สามารถดำเนินธุรกิจมาได้จนถึงปัจจุบัน และเริ่มมีฐานะทางการเงินดีขึ้น ไม่ต้องเข้าสู่การฟื้นฟูกิจการ อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมีความจำเป็นต้องระดมทุนเพิ่มเติมเพื่อปรับปรุงการดำเนินงานของบริษัทให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และกลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว” นายรัฐชัย กล่าว
นายรัฐชัย ภิชยภูมิ กรรมการบริหาร บริษัท พีเออี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ PAE เปิดเผยถึงภาพรวมการดำเนินงานของบริษัทในช่วงครึ่งแรกของปี 58 ว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลจากการมุ่งเน้นดำเนินงานในธุรกิจหลักด้านการประกอบชิ้นส่วนอุปกรณ์โครงสร้างเหล็กท่อใช้กับธุรกิจ Oil and Gas และงานบริการซ่อมบำรุง ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งปีแรก PAE เข้ารับงานโครงการใหม่ จำนวน 5 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 100 ล้านบาท และมีมูลค่างานในมือที่อยู่ระหว่างการดำเนินงาน (Backlog) คิดเป็นมูลค่ารวม 1,500 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้ในช่วงครึ่งหลังของปีต่อเนื่องไปจนถึงปี 59
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังอยู่ระหว่างการเข้าประมูลงานใหม่เพิ่มเติมคิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 1 พันล้านบาท ซึ่งบริษัทตั้งเป้าหมายเข้ารับงานใหม่เพิ่มอีก 50% ของมูลค่างานที่ประมูลใหม่ดังกล่าว
“ผลการดำเนินงานของบริษัทผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในปี 2557 ซึ่งมีผลขาดทุนจำนวน 635 ล้านบาท เนื่องจากมีการตั้งสำรองโครงการรับเหมาก่อสร้างอาคารที่เกิดขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา จำนวนมาก และไม่มีผลกระทบมาในปีนี้แล้ว ปัจจุบันเรามุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจด้าน Oil and Gas เป็นหลัก ทำให้ผลการดำเนินงานค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเชื่อว่าในปีนี้ผลประกอบการจะเริ่มพลิกกลับมาเป็นกำไรได้ ขณะที่รายได้รวมของบริษัทจะอยู่ที่ประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท” นายรัฐชัย กล่าว
ส่วนแผนการล้างขาดทุนสะสมจำนวนประมาณ 2,000 ล้านบาท ของบริษัท ส่วนหนึ่งจะทยอยลดขาดทุนสะสมโดยเร่งเดินหน้าธุรกิจหลักให้มีกำไร ลดต้นทุน ปรับปรุงการดำเนินงานในส่วนต่างๆ ให้มีความสามารถในการทำกำไรสูงขึ้น ตลอดจนขยายการลงทุนในธุรกิจใหม่ในลักษณะของการร่วมทุน เพื่อขยายฐานรายได้ และกำไรของบริษัทให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง
โดยล่าสุด บริษัทได้เข้าซื้อหุ้นของบริษัท พีพีเอส เอนเนอยี แอนด์ มารีน จำกัด ในสัดส่วน 67.77% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 150 ล้านบาท คิดเป็นเงินลงทุนจำนวนประมาณ 82 ล้านบาท เพื่อร่วมดำเนินธุรกิจวางท่อและจำหน่ายน้ำประปาและน้ำดิบในนิคมอุตสาหกรรมภาคตะวันออก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินโครงการ คาดว่าจะแล้วเสร็จรับรู้รายได้ในปี 2560 โดยบริษัทประมาณการรับรู้รายได้จากโครงการดังกล่าวอยู่ที่ประมาณ 200 ล้านบาท/ปี
สำหรับแผนการเพิ่มทุนของบริษัทในวันที่ 29 ก.ค.นี้ ที่ประชุมผู้ถือหุ้นจะพิจารณาอนุมัติการออกหุ้นเพิ่มทุนเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม (RO) จำนวน 5,541,481,928 หุ้น อัตราส่วน 1 หุ้นเดิมต่อ 2 หุ้นใหม่ ราคาเสนอขาย 0.20 บาท/หุ้น และเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้บุคคลในวงจำกัด (PP) อีกจำนวน 2,000 ล้านหุ้น โดยวัตถุประสงค์ของการระดมทุนในครั้งนี้บริษัทต้องการนำเงินมาใช้เป็นทุนหมุนเวียนเพื่อการปรับปรุง และขยายกิจการ
“ก่อนหน้านี้ บริษัทได้เพิ่มทุนขาย PP ราคา 0.60 บาท/หุ้นไปแล้ว 2 ครั้ง ได้รับเงินระดมทุนรวมทั้งสิ้นประมาณ 630 ล้านบาท ซึ่งบริษัทได้นำไปใช้ในการชำระหนี้ให้แก่สถาบันการเงิน ชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้การค้า และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ ซึ่งส่งผลให้ PAE สามารถดำเนินธุรกิจมาได้จนถึงปัจจุบัน และเริ่มมีฐานะทางการเงินดีขึ้น ไม่ต้องเข้าสู่การฟื้นฟูกิจการ อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมีความจำเป็นต้องระดมทุนเพิ่มเติมเพื่อปรับปรุงการดำเนินงานของบริษัทให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และกลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว” นายรัฐชัย กล่าว