เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่งฯ เนื้้อหอมกลุ่มทุนรุมจีบเทกโอเวอร์-ร่วมทุน ยันไม่ต้องการขายกิจการ แต่อยากได้กลุ่มทุนเสริมศักยภาพ ล่าสุด เปิดขายเฟส 2 Natureza Art Park พัทยา-นาเกลือ ระบุการขายยังมีต่อเนื่อง แม้ท่องเที่ยว-อสังหาฯ ชะลอตัว เผยยอดขายครึ่งปี 1,200 ล้าน ยังมั่นใจทั้งปีขายตามเป้า 3,400 ล้านบาท
นายสมเชาว์ ตันฑเทอดธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ NCH เปิดเผยว่า จากกระแสซื้อกิจการ-ร่วมทุนบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายกลางในช่วงที่ผ่านมา บริษัทก็เป็นอีก 1 ราย ที่มีกลุ่มทุนเข้ามาเจรจาซื้อ ทั้งเป็นการขอซื้อกิจการ ร่วมทุนเป็นพันธมิตร ซึ่งบริษัทเองก็มีกลุ่มทุนเข้ามาเจรจาเช่นกัน โดยมีทั้งขอซื้อกิจการ และร่วมลงทุน ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีความคืบหน้า
“มีกลุ่มทุนทั้งในธุรกิจอสังหาฯ และธุรกิจอื่น 3-4 ราย เข้ามาเจรจา ทั้งเทกโอเวอร์ และร่วมทุน แต่เราไม่ต้องการขายธุรกิจ แต่อยากได้พันธมิตรที่มีทั้งเม็ดเงินลงทุน มีเทคโนโลยี หรือมีความเชี่ยวชาญด้านอื่นที่จะมาเกื้อหนุนให้บริษัทเติบโตมากกว่า” นายสมเชาว์ กล่าว
ส่วนกรณีที่ที่ดินในโครงการบ้านจัดสรรของผู้ประกอบการบางรายเกิดการทรุดตัวนั้น เกิดจากการทรุดตัวของรั้วบ้าน และถนน เพราะดินใน กทม.มีการทรุดตัวลงทุกปีอยู่แล้ว จึงส่งผลให้รั้วบ้านต้องทรุดตัวตามไปด้วย ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องธรรมชาติ ไม่สามารถแก้ไขได้ ประกอบกับในช่วงปี 2554 ที่ กทม.ประสบปัญหาน้ำท่วมใหญ่ได้ส่งผลให้น้ำเซาะใต้ดินจนเป็นโพรง เมื่อถึงเวลาก็มีการทรุดตัวลง ซึ่งรวมไปถึงการทรุดตัวของถนนเพชรเกษม บริเวณตลาดบางแคด้วย โดยที่ดินใน กทม.หากมีการปลูกสิ่งก่อสร้างต้องมีการตอกเสาเข็มลึกประมาณ 10-20 เมตร ขณะที่ จ.สมุทรปราการ ซึ่งดินมีการอ่อนนุ่ม และทรุดตัวง่ายต้องมีการตอกเสาเข็มลึกถึง 20 เมตร
ส่วนแผนการดำเนินงานของบริษัทในปีเตรียมเปิดโครงการใหม่ 2-4 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 3,000 ล้านบาท เป็นบ้านแนวราบเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยจะทะยอยเปิดในช่วงครึ่งปีหลัง
ล่าสุด ได้เปิดเฟส 2 โครงการ Natureza Art Park พัทยา-นาเกลือ คอนโด Low Rise 8 ชั้น จำนวน 2 อาคาร อาคาร B จำนวน 195 ยูนิต และอาคาร D จำนวน 211 ยูนิต พิเศษช่วงเปิดพรีเซลราคาเริ่มต้น 1.39 ล้านบาท ปัจจุบัน มียอดขายแล้ว 60% โดยคาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ภายในต้นปี 59
นายสมเชาว์ กล่าวว่า ภาพรวมตลาดพัทยาแม้ว่าที่ผ่านมาการท่องเที่ยวจะชะลอตัวจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวทั้งใน และต่างประเทศ แต่ปัจจุบันเริ่มฟื้นตัวขึ้น และคาดว่าจากศักยภาพของพัทยา จะทำให้การท่องเที่ยวกลับมาคึกคักได้ในช่วงไฮซีซันนี้
ส่วนภาพรวมของตลาดอสังหาฯ มีการแข่งขันสูง แต่ยังมีการขายอย่างต่อเนื่อง แบบค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งศักยภาพของพัทยาที่มีทั้งการท่องเที่ยว และนิคมอุตสาหกรรม แหล่งงาน ทำให้มีแรงซื้อทั้งจากนักท่องเที่ยว และผู้ที่ทำงานในนิคมอุตสาหกรรมในย่านนี้ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ
สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกมียอดขายเกือบ 1,200 ล้านบาท และเชื่อว่าจะเติบโตกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนทั้งในแง่ของยอดขาย และรายได้ โดยคาดว่าจะสามารถสร้างยอดขายได้ตามเป้าที่วางเอาไว้ทั้งปี 3,400 ล้านบาท และยอดรับรู้รายได้ 2,200 ล้านบาท จากการเปิดตัวโครงการใหม่ และช่วงครึ่งปีหลังถือเป็นช่วงไฮซีซันของธุรกิจอสังหาฯ