ตลท.คาดมูลค่าการซื้อขายหุ้นเฉลี่ยต่อวันในปีนี้คาดถึง 52,000 ล้านบาท ส่วนหุ้น IPO เฉลี่ยที่ 40-50 บริษัทใกล้เคียงกับปีที่แล้ว ล่าสุด ก.ล.ต.อนุมัติไฟลิ่งแล้ว 7 บริษัท คาดเทรดในไตรมาส 3 ส่วน TFEX-AFET คาดสามารถควบรวมได้แล้วเสร็จ พร้อมซื้อขายสัญญายางแผ่นรมควันได้ในไตรมาส 3 ปีนี้
นางสาวปวีณา ศรีโพธิ์ทอง ผู้ช่วยผู้จัดการ หัวหน้ากลุ่มงานผู้ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. กล่าวว่า ในปีนี้ คาดว่า จำนวนบริษัทที่จะนำเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก หรือ IPO คาดว่าในปีนี้จะอยู่ที่ประมาณ 40-45 บริษัท ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว โดยในครึ่งปีแรกได้มีบริษัทเข้ามาจดทะเบียนซื้อขายแล้ว 15 บริษัท โดยคาดว่ามูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของหุ้น IPO ที่เข้าใหม่ในปีนี้จะมีมูลค่าสูงถึง 250,000 ล้านบาท ซึ่งหากนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงสิ้น มิถุนายน 2558 อยู่ที่ 160,000 ล้านบาท อย่างไรก็ดี ล่าสุด คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต.ได้อนุมัติไฟลิ่งแล้วจำนวน 7 บริษัท แบ่งเป็น กองทุนอสังหาริมทรัพย์ (เดิม) 2 บริษัท กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน 1 บริษัทในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) จำนวน 3 บริษัท และตลาดหลักทรัพย์ mai จำนวน 1 บริษัท ซึ่งคาดว่าจะเข้าทำการซื้อขายได้ภายในไตรมาส 3 ปีนี้อย่างน้อย 5 บริษัท
ขณะที่นายสันติ กีระนันทน์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานการตลาดและดูแลสายงานผู้ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. กล่าวเสริมว่า ภายในเดือนกันยายนนี้ ตลท.จะจัดกิจกรรมบริษัทจดทะเบียนพบกับภาครัฐโดยจะเน้นการนำเสนอข้อมูลในประเด็นเศรษฐกิจดิจิตอล ซึ่งจะเชิญ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ มาแสดงวิสัยทัศน์ ตลอดจนถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.) และคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) เข้าร่วมเสวนาเพื่อร่วมกันนำเสนอโอกาสต่างๆ และแนวทางในการพัฒนาร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชน
ด้านนายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ mai กล่าวเพิ่มเติมว่า คาดว่าในครึ่งปีหลังจะมีบริษัทจดทะเบียนเข้าเทรดใน mai อีกประมาณ 16 บริษัท จากที่ครึ่งปีแรกที่ซื้อขายไปแล้ว 4 บริษัท ซึ่งรวมทั้งปีจะเท่ากับ 20 บริษัทใกล้เคียงกับปีก่อน เนื่องจากในครึ่งปีแรกบริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่จะพิจารณาภาพรวมของเศรษฐกิจก่อนจึงไม่นิยมเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้น แต่จะเป็นช่วงครึ่งปีหลังมากกว่า ซึ่งสามารถคาดการณ์เศรษฐกิจได้และเป็นช่วงไฮซีซันของหลายๆ บริษัทจดทะเบียน
ขณะที่นางสาวนพเก้า สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้จัดการหัวหน้ากลุ่มงานบริการลูกค้าและช่องทาง ตลท. กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลท.คาดว่า มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันปีนี้จะอยู่ที่ประมาณ 52,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปีก่อนที่ 45,000 ล้านบาท โดยในครึ่งปีแรกที่ผ่านมา มีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยที่ 50,000 ล้านบาท โดยคาดว่าในครึ่งปีหลัง จะมีแรงซื้อเข้ามาจากการลงทุนในนโยบายภาครัฐเข้ามาช่วยกระตุ้นตลาด ขณะที่จำนวนนักลงทุนหน้าใหม่ในตลาดหลักทรัพย์ปีนี้ คาดว่า จะอยู่ที่ 95,000 ราย จากปัจจุบันที่เข้ามาแล้ว 37,000 ราย ส่วนการควบรวมตลาด AFET และ TFEX มั่นใจว่าจะแล้วเสร็จปลายไตรมาส 3 โดยคาดว่าจะสามารถนำยางแผ่นรมควันชั้น 3 มาทำการซื้อขายได้เป็นสินค้าแรก
