การเคหะฯ เผยโครงการแพกเกจ 1 จำนวน 16,146 หน่วย 38 โครงการ 7 เดือน กวาดยอดขายแล้ว 9,7727 หน่วย หรือ 65% ปิดการขายแล้ว 7 โครงการ ยอดขายเกิน 50% 17 โครงการ เผย 13 โครงการยอดขายต่ำกว่า 50% เตรียมส่งทีมการตลาด-สถาปนิกลงพื้นที่แก้ไขโครงการที่มียอดขายต่ำกว่าเป้า ขณะที่บ้านเอื้ออาทร ยอดขาย 5,597 หน่วย
นายสุภัคร ลดาวัลย์ ณ อยุธยา รองผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ เปิดเผยถึงความคืบหน้าของโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัย ชุดที่ 1 (โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัย ชุดที่ 1 ปี 2557-2560) หรือโครงการแพกเกจ 1 มีจำนวนทั้งหมด 38 โครงการ จำนวน 16,146 หน่วย ซึ่งไม่ใช่โครงการบ้านเอื้ออาทร หลังจากที่ได้เปิดขายมาตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่ผ่านมา จนถึงล่าสุด ขณะนี้ยอดขายโครงการฯ ถือว่าประสบความสำเร็จมากพอสมควร เนื่องจากใช้เวลาเพียง 7 เดือนเศษ ณ วันที่ 8 มิถุนายน มียอดขายรวมทั้งสิ้น 9,727 หน่วย หรือ 65.41% จากโครงการทั้งสิ้นที่ได้ผ่านการอนุมัติมาจากคณะรัฐมนตรีทั้งสิ้น 16,146 หน่วย
โดยโครงการที่ขายหมดทั้ง 100% มี 7 โครงการ ประกอบด้วย โครงการรายได้น้อย-ปานกลาง จำนวน 5 โครงการ คือ จ.เชียงใหม่ (สันผีเสื้อ), จ.เชียงใหม่ (ไนท์ซาฟารี) ระยะที่ 1, โครงการ จ .พิษณุโลก (บึงพระ 2), จ.กระบี่ (กระบี่น้อย), จ.ศรีษะเกษ (โพนข่า) ระยะที่ 1 ส่วนที่ 2 โครงการเป็นโครงการหารายได้ 2 โครงการ คือ โครงการที่ จ. นครสวรรค์ (นครสวรรค์ นิวมาร์ท) และ จ.สมุทรปราการ (บางพลี ทาวน์โฮม)
ส่วนโครงการที่มียอดขายมากกว่า 50% จำนวน 17 โครงการ 8,294 หน่วย มียอดขายรวม 6,858 หน่วย หรือ 82.69% แบ่งเป็นโครงการ รายได้น้อย-ปานกลาง จำนวน 14 โครงการ (7,887 หน่วย) มียอดขายรวม 6,597 หน่วย และโครงการหารายได้ จำนวน 4 โครงการ (407 หน่วย) มียอดขายรวม 261 หน่วย
และสำหรับโครงการที่มียอดขายน้อยกว่า 50% จำนวน 13 โครงการ 4,812 หน่วย มียอดขายรวม 1,105 หน่วย หรือ 22.96 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งโครงการรายได้น้อย-ปานกลาง จำนวน 5 โครงการ (4,079 หน่วย) มียอดขายรวม 983 หน่วย และโครงการหารายได้ จำนวน 7 โครงการ (733 หน่วย) มียอดขายรวม 122 หน่วย
นายสุภัคร กล่าวว่า การขายโครงการแพกเกจ 1 ในช่วง 7 เดือนเศษที่ผ่านมาถือว่าทีมการตลาดและการขายประสบความสำเร็จ และทาง กคช.ก็พอใจต่อยอดขายที่ทำการขายไม่นาน สามารถทำยอดขายได้ถึง 65.41% ทั้งนี้ เหตุผลที่สนับสนุนทำให้ยอดขายได้มากขนาดนี้เพราะลูกค้ามีความมั่นใจในการเคหะแห่งชาติในการสร้างที่อยู่อาศัยให้แก่ประชาชนมาเป็นระยะเวลานาน
อย่างไรก็ตาม สำหรับโครงการที่ยอดขายยังไม่เป็นไปตามเป้าหมายนั้นทางทีมการตลาด และทีมสถาปนิกโครงการได้ลงพื้นที่สำรวจ พร้อมทั้งได้นำมาปรับเปลี่ยนรูปแบบของแต่ละโครงการ และปรับลดราคาลงมาเพื่อไปทำการตลาดอีกครั้ง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการให้ทีมการตลาดลงพื้นที่ แต่เท่าที่ได้เริ่มลงพื้นที่ก็ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม อาจจะต้องมีการนำเสนอยังคณะรัฐมนตรีอีกครั้งในการแก้ไขรูปแบบโครงการ และราคาที่ปรับลดลง
ส่วนงานก่อสร้างโครงการแพกเกจ 1 นั้น ล่าสุด โครงการที่จังหวัดจันทบุรี เป็นโครงการแรกที่การก่อสร้างเกือบแล้วเสร็จ ส่วนโครงการอื่นๆ ก็ทยอยดำเนินการ และในส่วนของโครงการฯ บางแห่งที่ยอดขายยังไม่เป็นไปตามเป้าก็จะมีการแบ่งส่วนที่ขายได้ และนำมาก่อสร้างก่อน เพื่อจะได้ให้ลูกค้าเห็นโครงการที่แล้วเสร็จจริง ซึ่งจะเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ตัดสินใจซื้อโครงการง่ายขึ้นด้วย
นายสุภัคร ยังได้กล่าวถึงโครงการบ้านเอื้ออาทร และโครงการเคหะชุมชนว่า ขณะนี้ในส่วนของโครงการบ้านเอื้ออาทรยังคงขายได้เรื่อยๆ ถึงแม้ว่าจะไม่มีการจัดงานรณรงค์ หรือแคมเปญขายก็ตาม โดยล่าสุด มียอดขายอยู่ที่ 5,597 หน่วย หรือประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์เศษๆ จากเป้าหมายขายทั้งปีงบประมาณ 2558 ที่ตั้งเป้ายอดขายไว้ทั้งสิ้นรวม 8,390 หน่วย ซึ่งทีมการตลาดก็จะหันมาทำการตลาดโครงการบ้านเอื้ออาทร ควบคู่ไปกับการขายโครงการแพกเกจ 1 และการขายโครงการเคหะชุมชนด้วย
