การเคหะแห่งชาติ สั่งทีมการตลาด-ขายระดมสมองเร่งปรับแผนตลาดโครงการแพกเกจ 1 หลังเปิดขายอย่างเป็นทางการช่วง ก.ย.57 ล่าสุด มียอดจองซื้อแล้ว 60% จากจำนวนหน่วยเสนอขาย 9,013 หน่วย
นายสุภัคร ลดาวัลย์ ณ อยุธยา รองผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ (กคช.) กล่าวว่า หลังจากที่การเคหะแห่งชาติ เปิดขายโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยแพกเกจ 1 โดยได้ทดลองเปิดขายในช่วงเดือนกันยายน 2557 ที่ผ่านมา และมีการเปิดขายอย่างเป็นทางการเมื่อต้นเดือนมีนาคม 2558 ที่ผ่านมา โดย ณ ปัจจุบัน โครงการดังกล่าวมียอดขายรวมทั่วประเทศทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดทั้งสิ้น 9,013 หน่วย หรือประมาณ 60% ของโครงการทั้งหมดที่เปิดขายมีทั้งสิ้น 37 โครงการ จำนวน 16,000 หน่วยเศษ
สำหรับยอดขาย 9,013 หน่วย ที่ กคช.สามารถขายมาจากโครงการสำหรับผู้มีรายได้น้อย 88% และอีก 12% มาจากโครงการหารายได้ ทั้งนี้ ยอดขายดังกล่าวส่วนหนึ่งมาจากการที่การเคหะแห่งชาติ ได้เสนอเงื่อนไขเรื่องการผ่อนดาวน์ให้แก่ลูกค้า จากเดิมที่ต้องผ่อนดาวน์ 10% ในระหว่างที่โครงการกำลังก่อสร้าง ซึ่งทางลูกค้าเองต้องเช่าบ้านเดิมอยู่ก็ต้องจ่ายค่าเช่าไปพร้อมกันด้วย ทำให้ลูกค้าต้องมีค่าใช้จ่าย 2 ทาง การเคหะฯ จึงลดการค่าผ่อนดาวน์ให้ลูกค้าลงเป็นผ่อนดาวน์เพียง 5%
“ยอดขายที่สามารถทำได้กว่า 60% นี้ การเคหะแห่งชาติ พอใจมาก และถือว่าเป็นการขายโครงการที่ประสบความสำเร็จมาก สำหรับโครงการใหม่ที่เปิดตัวขายในช่วงเวลาที่ผ่านมา ปัจจัยและเหตุผลที่ทำให้โครงการแพกเกจ 1 สามารถมียอดจองจำนวนมาก เพราะความมั่นใจของลูกค้าที่มีต่อการเคหะแห่งชาติ มั่นใจต่อโครงการที่อยู่อาศัย และพึงพอใจในราคาขายตามทำเลที่ตั้งของโครงการต่างๆ ตลอดจนความต้องการ แม้ว่าเศรษฐกิจช่วงนี้จะยังทรงๆ ตัวก็ตาม”
นายสุภัคร กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ฝ่ายการตลาด และการขายอยู่ระหว่างการวางแผนการตลาดเพื่อจะบุกขายโครงการแพกเกจ 1 ต่อ หลังจากที่ได้จัดงานมหกรรมรณรงค์ขายไปเมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งการตลาดในแต่ละโซนที่ดูแลโครงการไหนจะต้องรวบรวมข้อมูลมาว่าแนวทางการทำการตลาดต่อจากนี้ไปจะเป็นอย่างไร ต่อโครงการที่จะทำการขายต่อไปว่ามีอุปสรรค และปัญหาอะไร และต้องเดินหน้าการขายไปในรูปแบบใดถึงจะถูกใจลูกค้าจนตัดสนใจซื้อในที่สุด
“เจ้าหน้าที่ทุกคนในฝ่ายการตลาดจะต้องช่วยกันระดมความคิด และนำมาสรุปภายในวันที่ 19 เม.ย. หลังจากนั้นจะมีการสรุปแนวทางแผนการตลาดอีกที พร้อมกำหนดแผนการตลาดใหม่ เริ่มเดินหน้าขายได้เลยตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.-30 มิ.ย. โดยแผนการตลาดที่จะนำไปขายในแต่ละพื้นที่อาจจะแตกต่างกันไป เพราะความต้องการของลูกค้าในแต่ละพื้นที่ไม่เหมือนกัน สำหรับโซนจังหวัดที่จะทำแผนการตลาดขายในช่วงหลังสงกรานต์ ประกอบด้วย โครงการแพกเกจ 1 ที่จังหวัดภูเก็ต, เชียงใหม่, นครศรีธรรมราช, สมุทรปราการ และเพชรบูรณ์”