xs
xsm
sm
md
lg

“ออริจิ้น” คาดเทรดไตรมาส 3 นี้ ลุยเปิด 2 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 3,840 ล้านบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ เตรียมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อเสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก จำนวน 180 ล้านหุ้น ราคาพาร์ 0.50 บาท คาดเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ไตรมาส 3/58 ด้านผู้บริหาร “พีระพงศ์ จรูญเอก” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เผยเงินที่ได้จากการระดมทุนจะนำไปต่อยอด และพัฒนาโครงการในอนาคต รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน พร้อมเตรียมเปิดตัว 2 โครงการใหม่ “ไนท์ บริดจ์ สะพานใหม่” และ “ไนท์บริดจ์ เดอะ โอเชียน ศรีราชา” มูลค่ารวม 3.84 พันล้านบาท ดันยอดขายเพิ่ม

นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียมตามแนวสถานีขนส่งมวลชนระบบรางในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เปิดเผยว่า บริษัทฯ อยู่ระหว่างการเตรียมนำหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อเสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก จำนวน 180 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ซี่งในเบื้องต้น บริษัทฯ คาดว่าจะสามารถนำหุ้นเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ภายในไตรมาส 3/2558

สำหรับเม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทฯ จะนำไปใช้ในการขยายโครงการ ซึ่งปัจจุบันมีโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา จํานวน 11 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 6,725 ล้านบาท และโครงการในอนาคตอีกจํานวน 7 โครงการ คิดเป็นมูลค่าโครงการรวมประมาณ 7,170 ล้านบาท

โดยในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ บริษัทฯ เตรียมเปิดโครงการใหม่ คือ โครงการไนท์บริดจ์ สะพานใหม่ ติดถนนพหลโยธิน และสถานีรถไฟฟ้า BTS สายหยุด เป็นโครงการคอนโดมิเนียมสูง 15 ชั้น มูลค่า 1,340 ล้านบาท ปัจจุบัน มีการเปิดขายให้แก่ลูกค้า VIP และมียอดจองเข้ามาแล้ว ประมาณ 60% ของมูลค่าโครงการ และคาดว่าโครงการดังกล่าวจะก่อสร้างแล้วเสร็จไตรมาส 3/2560 โดยโครงการนี้ได้รับการสนับสนุนสินเชื่อจากธนาคารกสิกรไทย
 

นอกจากนี้ ล่าสุด บริษัทฯ ได้ได้รับวงเงินสินเชื่อจากธนาคารยูโอบี เพื่อใช้ในการเปิดโครงการโครงการ ไนท์บริดจ์ เดอะ โอเชียน ศรีราชา เป็นคอนโดมิเนียม 35 ชั้น มูลค่าโครงการ 2,500 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าในไตรมาส 3/2558 จะเปิดขายโครงการดังกล่าวได้ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า จากการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียม ทั้งแบบอาคาร Low Rise และอาคาร High Rise อย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทฯ มีอัตราการเติบโตของรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่องในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา (2555-2557) โดยมีอัตราการเติบโตโดยเฉลี่ยต่อปี (CAGR) 69.79%

“หากพิจารณาจากผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในช่วงที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าบริษัทฯ มีอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยจะเห็นได้จากปี 2554 บริษัทฯ มีรายได้รวมจํานวน 0.04 ล้านบาท และมีขาดทุนสุทธิ จํานวน 15.4 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการลงทุนเพื่อขยายโครงการ แต่ในปี 2555 บริษัทฯ เริ่มทยอยรับรู้รายได้จากโครงการต่างๆ ที่ได้ลงทุนก่อนหน้า ทำให้บริษัทฯ มีรายได้ในปีดังกล่าวที่ระดับ 192.4 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิ 28.6 ล้านบาท ขณะที่ปี 2556 บริษัทฯ มีรายได้รวม 418.9 ล้านบาท กำไรสุทธิ 64.2 ล้านบาท และปี 2557 มีรายได้ 559.4 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 70.3 ล้านบาท ส่วนผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2558 มีรายได้รวม 489.5 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 105.3 ล้านบาท” นายพีระพงศ์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น