ซีฟโก้ คาดผลงานไตรมาส 2 ดีกว่าไตรมาสแรก มั่นใจทั้งปีรายได้และกำไรทำสถิติใหม่ ผลจากรับรู้งานในมือทั้งหมดปีนี้ และงานโครงการต่างๆ ภาครัฐจะออกมาอีกมากช่วงครึ่งปีหลัง พร้อมเดินหน้าประมูลงานใหม่ต่อเนื่อง
นายณรงค์ ทัศนนิพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซีฟโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ SEAFCO เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่า ผลประกอบการในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้จะดีกว่าไตรมาสแรกที่มีรายได้ 484.69 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 27.64 ล้านบาท เนื่องจากปัจจุบัน บริษัทฯ มีงานในมือ (Backlog) มูลค่า 980 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้เป็นรายได้ในช่วงไตรมาส 2 ประมาณ 400-500 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงเป้าหมายผลประกอบการปี 58 ทั้งรายได้และกำไรจะทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่องจากปีก่อน คาดว่า ทั้งรายได้และกำไรจะเติบโต 15% ขณะที่ปี 57 บริษัทมีรายได้ 1,930.28 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 210.47 ล้านบาท ปัจจุบัน บริษัทฯ มีงานที่อยู่ระหว่างรอผลประมูลราว 2 พันล้านบาท และ SEAFCO คาดหวังจะได้งานในส่วนนี้ราว 30-40%
นอกจากนี้ SEAFCO ยังอยู่ระหว่างเจรจากับบริษัท ไชน่า ฮาเบอร์ จำกัด ในโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว (เหนือ) ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต โดยบริษัทฯ คาดว่ามูลค่างานเฉพาะค่าแรงอยู่ที่ราว 1-2 พันล้านบาท
นายณรงค์ กล่าวเพิ่มว่า SEAFCO ยังมีแผนขยายรับงานในพม่าเพิ่มขึ้น โดยอยู่ระหว่างใบอนุญาตงานใหม่มูลค่าราว 200 ล้านบาท ที่มีความล่าช้ามาประมาณ 2-3 เดือน คาดได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้ ซึ่งจะส่งผลให้สัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเพิ่มเป็น 10% จากปีนี้มีสัดส่วน 4% หรือมีมูลค่างานราว 80-90 ล้านบาท
“เรามองแนวโน้มไตรมาส 2 ปีนี้ ผลงานทั้งรายได้และกำไรจะดีกว่าไตรมาสแรก เนื่องจากมีการส่งมอบงานมาก และมั่นใจว่ารายได้และกำไรจะทำสถิติสูงสุดใหม่ เพราะเรามีการประมูลงานใหม่อย่างต่อเนื่อง และยังมีงานในมือ หรือ Backlog ที่จะรับรู้เป็นรายได้ในปีนี้ทั้งหมด และเชื่อว่างานโครงการต่างๆ ของภาครัฐฯ จะออกมาได้ช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งจะทำให้ผลงานดีขึ้นอีก” นายณรงค์ กล่าว
นายณรงค์ ทัศนนิพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซีฟโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ SEAFCO เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่า ผลประกอบการในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้จะดีกว่าไตรมาสแรกที่มีรายได้ 484.69 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 27.64 ล้านบาท เนื่องจากปัจจุบัน บริษัทฯ มีงานในมือ (Backlog) มูลค่า 980 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้เป็นรายได้ในช่วงไตรมาส 2 ประมาณ 400-500 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงเป้าหมายผลประกอบการปี 58 ทั้งรายได้และกำไรจะทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่องจากปีก่อน คาดว่า ทั้งรายได้และกำไรจะเติบโต 15% ขณะที่ปี 57 บริษัทมีรายได้ 1,930.28 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 210.47 ล้านบาท ปัจจุบัน บริษัทฯ มีงานที่อยู่ระหว่างรอผลประมูลราว 2 พันล้านบาท และ SEAFCO คาดหวังจะได้งานในส่วนนี้ราว 30-40%
นอกจากนี้ SEAFCO ยังอยู่ระหว่างเจรจากับบริษัท ไชน่า ฮาเบอร์ จำกัด ในโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว (เหนือ) ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต โดยบริษัทฯ คาดว่ามูลค่างานเฉพาะค่าแรงอยู่ที่ราว 1-2 พันล้านบาท
นายณรงค์ กล่าวเพิ่มว่า SEAFCO ยังมีแผนขยายรับงานในพม่าเพิ่มขึ้น โดยอยู่ระหว่างใบอนุญาตงานใหม่มูลค่าราว 200 ล้านบาท ที่มีความล่าช้ามาประมาณ 2-3 เดือน คาดได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้ ซึ่งจะส่งผลให้สัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเพิ่มเป็น 10% จากปีนี้มีสัดส่วน 4% หรือมีมูลค่างานราว 80-90 ล้านบาท
“เรามองแนวโน้มไตรมาส 2 ปีนี้ ผลงานทั้งรายได้และกำไรจะดีกว่าไตรมาสแรก เนื่องจากมีการส่งมอบงานมาก และมั่นใจว่ารายได้และกำไรจะทำสถิติสูงสุดใหม่ เพราะเรามีการประมูลงานใหม่อย่างต่อเนื่อง และยังมีงานในมือ หรือ Backlog ที่จะรับรู้เป็นรายได้ในปีนี้ทั้งหมด และเชื่อว่างานโครงการต่างๆ ของภาครัฐฯ จะออกมาได้ช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งจะทำให้ผลงานดีขึ้นอีก” นายณรงค์ กล่าว