“โปรเจค แพลนนิ่ง เซอร์วิส” คาดปี 58 เข้าสู่ยุคทอง รัฐทยอยคลอดโปรเจกต์ยักษ์ ขณะภาคเอกชนแห่ลงทุนเพียบ เพิ่มโอกาสคว้างานใหม่ทั้งงานบริหารโครงการ และออกแบบ ตั้งเป้าดัน Backlog แตะ 400 ล้านบาท เดินหน้าเสนองานใหม่บุกทั้งในประเทศ และ AEC
นายธัช ธงภักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โปรเจค แพลนนิ่ง เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ PPS ผู้ดำเนินธุรกิจวิศวกรที่ปรึกษาบริหารโครงการก่อสร้างและงานออกแบบด้านวิศวกรรม เเละสถาปัตยกรรม เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจก่อสร้างกลุ่มประเทศ AEC ประเทศไทยปี 2558 มีทิศทางปรับตัวดีขึ้นเป็นอย่างมาก โดยในกลุ่มประเทศ AEC มีการลงทุนเพื่อขยายธุรกิจในภาคต่างๆของเอกชนจำนวนมาก ขณะที่ในประเทศไทยการลงทุนในโครงการภาครัฐเริ่มมีการดำเนินการออกมาต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลให้ภาคเอกชนที่มีการชะลอลงทุนในโครงการต่างๆ เริ่มกลับมาลงทุนในโครงการใหม่อีกครั้ง
“สัญญาณการฟื้นตัวของงานก่อสร้างปีนี้มีแนวโน้มการขยายตัวที่ดีทั้งในประเทศไทยเอง และกลุ่มประเทศ AEC ซึ่งถือเป็นโอกาสทางธุรกิจของบริษัทในการเข้ารับงานโครงการใหม่ๆ ซึ่งในปีนี้ PPS จะยังคงมุ่งเน้นการเข้ารับงานวิศวกรที่ปรึกษาบริหารโครงการขนาดกลาง-ใหญ่ ตลอดจนงานออกแบบด้านวิศวกรรม สถาปัตยกรรม โดยมุ่งเน้นงานใหม่ในกลุ่มประเทศ AEC มากขึ้น” นายธัช กล่าว
โดยแผนการดำเนินงานของบริษัทในส่วนงานวิศวกรที่ปรึกษาบริหารโครงการ จะมุ่งเน้นการเสนองานภาครัฐ งานก่อสร้างอาคารรูปแบบต่างๆ รวมทั้งงานโครงการใหม่ในกลุ่มประเทศ AEC อย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มมูลค่างานในมือ (Backlog) ให้อยู่ที่ 400 ล้านบาท จากปัจจุบันอยู่ที่ 250 ล้านบาท ซึ่งในช่วงต้นปีที่ผ่านมา PPS ได้เข้ารับงานใหม่เพิ่มขึ้นในภาคงานคอนโดมิเนียมขนาดใหญ่ ภาคค้าปลีก เเละโรงเเรม และอยู่ระหว่างการเข้าเสนอราคางานงานโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ รวมถึงงานโครงการในประเทศพม่า ลาว และมาเลเซีย
ส่วนงานด้านออกแบบจะมีการรุกตลาดงานออกแบบสถาปัตยกรรมในกลุ่มประเทศ AEC ร่วมกับ บริษัท สวอน แอนด์ แมคคลาเรน (ประเทศไทย) จำกัด มากขึ้น โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อเสนองานโครงการในประเทศพม่า จำนวน 4 โครงการ เเละโครงการในประเทศมาเลเซีย จำนวน 1 โครงการ ซึ่งคาดว่าจะทยอยทราบผลภายในปีนี้ ขณะที่งานด้านออกแบบวิศวกรรมของ บริษัท พีพีเอส ดีไซน์ จำกัด มีงานทยอยเข้ามาต่อเนื่อง แต่เป็นงานขนาดไม่ใหญ่มากนัก อย่างไรก็ตาม คาดว่าในปีนี้รายได้จากงานออกแบบทั้ง 2 ส่วนจะมีการเติบโตที่ดี และเป็นสัดส่วนรายได้รวมของบริษัทอยู่ที่ประมาณ 10%