xs
xsm
sm
md
lg

YLG เตือนระวังแรงเทขายทำกำไรทอง กดดันเคลื่อนตัวสู่ขาลง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“วาย แอล จี” ประเมินตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ กลับมามีบทบาทเพิ่มขึ้นต่อการขึ้นลงของราคาทองคำ เหตุจากที่ผ่านมา ไม่ค่อยดีนัก จนส่งสัญญาณอาจไม่เห็นการประกาศลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน ประกอบกับมีแรงเทขายทำกำไรออกมากดดัน คาดหากราคาปรับตัวลงต่ำกว่า 1,180 เหรียญ จะยังมีโอกาลลงต่อ เช่นเดียวกันหากทะยานไม่ทะลุ 1,230 เหรียญ ให้ระวังแรงเทขายทำกำไร
 

“วรุต รุ่งขำ” ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด ประเมินถึงทิศทางราคาทองคำในช่วงที่ผ่านมาว่า ราคาทองคำเปิดตลาดในราคาที่ค่อนข้างสูง และก็ถูกแรงเทขายทำกำไรใทำห้ราคามีการย่อตัวลงมาอย่างต่อเนื่อง แต่อย่างไรแล้วก็ตาม รายงานการประชุมของคณะกรรมการ FOMC ประจำเดือนเมษายน
 

ประกอบกับตัวเลขในฝั่งของสหรัฐฯ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของตัวเลขในภาคบริโภค ภาคการผลิต การใช้จ่ายในภาคธุรกิจ และภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ยังคงแสดงทิศทางเศรษฐกิจในฝั่งสหรัฐฯ ยังไม่ค่อยสดใสมากนัก ปัจจัยดังกล่าวทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือว่่าเฟด จะยังคงไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมประจำเดือนมิถุนายนนี้ และส่งผลให้ราคาทองคำมีการขยับขึ้นได้บ้าง แต่อย่างไรตาม การขยับขึ้นของราคาทองคำยังไปได้ไม่ไกลมากนัก ทั้งนี้ นักลงทุนยังจับตาการเคลื่อนไหวของตัวเลขเศรษฐกิจในฝั่งสหรัฐฯ เพื่อใช้เป็นการประกอบการตัดสินใจในการลงทุนโดยตลอด
 

สำหรับปัจจัยที่ยังคงต้องจับตาในสัปดาห์นี้ เชื่อว่าหลังวันหยุดปิดทำการในตลาดสหรัฐฯ และยุโรป ราคาทองคำจะคงยังไม่มีงเคลื่อนไหวไม่มากนัก แต่พอเปิดตลาดมาจะเริ่มมีตัวเลขเศรษฐกิจทยอยออกมา เช่น จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานประจำสัปดาห์ รวมถึงประมาณการ GDP ไตรมาส 1/58 ของสหรัฐฯ ถือว่าเป็นปัจจัยที่ควรจับตา เพราะราคาทองคำมักเคลื่อนไหวสวนทางกับทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งหากเศรษฐกิจมีการขยายตัวมากขึ้น แนวโน้มทิศทางราคาทองคำก็จะได้รับความนิยมหรือได้รับแรงซื้อลดลง
 

 

นอกจากนี้ ความตึงเครียดในทะเลจีนใต้เป็นอีกประเด็นที่นักลงทุนยังคงจับตา เพราะว่าโฆษกในกระทรวงของต่างประเทศจีน ได้มีการออกมาแสดงความไม่พอใจ หลังจากสหรัฐฯ มีการลาดตระเวนทางอากาศ และทางน้ำ ในบริเวณทะเลจีนใต้ ซึ่งประเด็นดังกล่าวอาจจะเพิ่มความเสี่ยงในการสร้างแรงกระทบกระทั่งมากขึ้น หากเกิดการรบกันจริง ทองคำจะได้รับความนิยม หรือแรงซื้อกลับเข้ามาในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ส่วนความตึงเครียดจากสภาพคล่องทางการเงินของกรีซที่ยังคงตึงตัว ยังเป็นอีกปัจจัยที่ยังคงต้องจับตาเช่นกัน แต่อย่างไรตาม ประเด็นดังกล่าวจะคลี่คลายมากขึ้น เมื่อรัฐมนตรีคลังของกรีซ เสนอแนวทางสวอปหนี้ให้แก่ทางรัฐบาลของกรีซ และให้เจ้าหนี้ โดยอาจจะให้ธนาคารกลางยุโรป หรือ ECB กลับเข้ามารับภาระในส่วนของหนี้ที่จำเป็นต้องชำระในงวดปัจจุบันไปก่อน แล้วค่อยกลับมาชำระคืนให้แก่ ECB ในภายหลัง 

ดังนั้น การเคลื่อนไหวราคาทองคำในสัปดาห์นี้ ประเมินว่าราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในลักษณะไซด์เวย์ ถึงแม้ทองคำจะมีการอ่อนตัวลงมา หากยังสามารถยืนอยู่เหนิอโซนแนวรับบริเวณ 1,190-1,180เหรียญ/ออนซ์ ได้ ประเมินว่าราคายังคงมีโอกาสดีดตัวขึ้นทดสอบราคาด้านบนในกรอบด้านบนระดับ 1,220-1,230 เหรียญ/ออนซ์ แต่หากไม่สามารถยืนเหนือแนวรับด้านบนที่กล่าวมาได้ ต้องระมัดระวังรายเทขายทำกำไรให้ราคาทองคำมีการอ่อนตัวลงมาอีกครั้ง กลับกันหากราคาร่วงลงมาต่ำกว่า 1,180 เหรียญ/ออนซ์ ราคาทองคำยังมีโอกาสปรับฐานลงต่อทดสอบแนวรับที่ 1,160 เหรียญ/ออนซ์ ทำให้นักลงทุนที่ต้องการเข้าซื้อคงต้องเน้นการเก็งกำไรระยะสั้นของราคา โดยอาจรอให้ราคาย่อตัวลงมาที่แนวรับสำคัญ และเข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้นเมื่อราคาทองคำดีดตัวขึ้นไป
กำลังโหลดความคิดเห็น