นิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น ได้ส่งทนาย “สุรพล บัวพา” เป็นตัวแทนผู้รับมอบอำนาจในการร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีอาญาต่อบุคคล และนิติบุคคล รวม 10 คน ข้อหาหรือฐานความผิดร่วมกันหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328 และตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 (1) ในความผิดฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น หรือประชาชน
วันนี้ (26 พ.ค.) บริษัท นิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ NEWS ได้มอบอำนาจให้ นายสุรพล บัวพา เป็นตัวแทนผู้รับมอบอำนาจในการร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีอาญาต่อบุคคล และนิติบุคคล รวม 10 คน ดังนี้
1.บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
2.นายณิทธิมน หัสดินทร ณ อยุธยา
3.นายสุทธิชัย แซ่หยุ่น
4.นายพนา จันทรวิโรจน์
5.นายเชวง จริยะพิสุทธิ์
6.นายปกรณ์ บริมาสพร
7.นางสาวดวงกมล โชตะนา
8.นายเสริมสิน สมะลาภา
9.นายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ
10.น.ส.เขมกร วชิรวราการ
ในข้อหาหรือฐานความผิด ร่วมกันหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328 และตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (1) ในความผิดฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น หรือประชาชน
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวสืบเนื่องจากคณะกรรมการของบริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ NMG มีมติให้เรียกประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2558 ในวันพุธที่ 29 เมษายน 2558 เวลา 14.00 น. ณ ห้องแลนด์มาร์คบอลรูม ชั้น 7 โรงแรม เดอะ แลนด์มาร์ค กรุงเทพมหานคร เพื่อพิจารณาเรื่องต่างๆ โดยคณะกรรมการบริหาร NMG ได้แจ้งให้บริษัท ศูนย์ฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะนายทะเบียนผู้ถือหุ้น ให้ดำเนินการจัดส่งหนังสือเชิญประชุมสามัญผู้ถือหุ้น และเอกสารที่เกี่ยวข้องให้แก่ NEWS และผู้ถือหุ้นทั่วไป เพื่อขอเชิญประชุมสามัญผู้ถือหุ้น และแจ้งระเบียบวาระการประชุม ข้อบังคับของบริษัทเงื่อนไขหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติในการเข้าร่วมประชุมการมอบฉันทะ และการออกเสียงลงคะแนน และแนบหนังสือมอบฉันทะในกรณีที่ผู้ถือหุ้นไม่สามารถเข้าร่วมประชุมด้วยตนเอง เพื่อให้ผู้ถือหุ้นทำหนังสือมอบฉันทะให้บุคคลอื่นเข้าร่วมประชุม และลงมติตามระเบียบวาระแทนตนเอง ซึ่งในการนี้ NEWS ได้มอบฉันทะให้ นายสุวัตร อภัยภักดิ์ เป็นผู้รับมอบฉันทะในการเข้าร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้นแทน แต่เมื่อถึงวันประชุม ปรากฏว่า พนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นลูกจ้าง หรือตัวแทนของคณะกรรมการ NMG ได้ตรวจสอบเอกสารแล้วยืนยันว่าถูกต้อง แต่ได้ปฏิเสธรับการลงทะเบียน โดยอ้างว่าคณะกรรมการบริหารบริษัทบ้าง ประธานกรรมการบริหารบ้าง มีคำสั่งห้ามมิให้ SLC หรือ NEWS หรือผู้เป็นตัวแทนผู้รับมอบฉันทะเข้าร่วมประชุม โดยไม่ให้เหตุผลใดๆ อีก
ต่อมา เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2558 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้มีหนังสือขอให้ NMG ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ชี้แจงข้อเท็จจริง และเหตุผลที่ประธานในที่ประชุมไม่อนุญาตให้ผู้ถือหุ้นบางรายเข้าร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้น โดยผู้ถือหุ้นดังกล่าวเป็นผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้นหรือไม่ รวมทั้งการกระทำดังกล่าว ประธานในที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้ดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือข้อบังคับของบริษัทข้อใด หรือไม่ อย่างไร ปรากฏว่า ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ทำหนังสือแจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยมีผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 เป็นผู้ลงนามในการทำหนังสือโดยอ้างว่า ผู้ถือหุ้นกลุ่มใหม่ได้เข้าถือหุ้นของบริษัทในช่วงที่ผ่านมา โดยมีเจตนาที่จะร่วมกันใช้สิทธิออกเสียงในฐานะผู้ถือหุ้นเพื่อเข้าครอบงำกิจการของบริษัท โดยที่มิได้ปฏิบัติให้เป็นตามหลักเกณฑ์ และบทบัญญัติของกฎหมายที่เกี่ยวข้องในเรื่องของการครอบงำกิจการ
ซึ่งได้แก่ พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 (รวมที่แก้ไขเพิ่มเติม) และประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ ทจ. 12/2554 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการ (รวมเรียกว่า “หลักเกณฑ์การเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการ”) อันเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และได้ระบุรายชื่อ และรายละเอียดการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นกลุ่มใหม่แนบท้ายหนังสือชี้แจง
โดยหนังสือชี้แจงของ NMG ได้ถูกส่งให้แก่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตามวิธีการสารสนเทศที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกำหนด โดยผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งนักลงทุน และประชาชนทั่วไปสามารถอ่านและเข้าถึงได้โดยง่าย ผ่านทางเว็บไซต์ www.set.or.th ซึ่งทาง NEWS เห็นว่า การชี้แจงดังกล่าวเป็นการเสนอข้อมูลผ่านระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และเป็นการกระทำฐานใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สาม โดยประการที่น่าจะทำให้เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชังด้วยการโฆษณา
เนื่องจาก NEWS ได้เข้าถือหุ้นของ NMG โดยปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ข้อบังคับของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จึงเป็นผู้ถือหุ้นโดยชอบด้วยกฎหมาย และมีสิทธิที่จะเข้าร่วมประชุมใหญ่เพื่อออกเสียงลงคะแนนอันเป็นการใช้สิทธิตามกฎหมาย และไม่เคยมีนิติสัมพันธ์ใดๆ กับบุคคลผู้มีชื่อในบัญชีรายชื่อตามที่ NMG กล่าวอ้างแต่อย่างใด นอกจากนี้ NEWS ไม่เคยมีการกระทำการเพื่อเข้าครอบงำกิจการของ NMG โดยที่มิได้ปฏิบัติให้เป็นตามหลักเกณฑ์และบทบัญญัติของกฎหมายที่เกี่ยวข้องในเรื่องของการครอบงำกิจการแต่อย่างใด การกระทำของ NMG กับพวก จึงเป็นการลงข้อความเท็จ หรือใส่ความเท็จ ทำให้ NEWS ได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชังจากบุคคลอื่นที่อ่านข้อมูล และทราบข่าว
นอกจากนี้ การมีหนังสือแจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในนาม บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ซึ่งมีผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 ถึงที่ 10 เป็นกรรมการ และผู้บริหาร มีหน้าที่รับผิดชอบร่วมกันตามกฎหมาย อีกทั้งไม่ปรากฏว่า มีกรรมการคนใดห้ามปรามทักท้วง แสดงว่าการกระทำในนามของ NMG ได้รับความเห็นชอบจากกรรมการผู้บริหารทุกคนร่วมกัน ดังนั้น คณะกรรมการบริษัทในฐานะผู้แทนนิติบุคคล จึงมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบตามกฎหมายร่วมกันทุกคน บริษัท นิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จึงมีความประสงค์ขอแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีอาญาต่อบุคคลดังกล่าว จนกว่าคดีจะถึงที่สุด
วันนี้ (26 พ.ค.) บริษัท นิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ NEWS ได้มอบอำนาจให้ นายสุรพล บัวพา เป็นตัวแทนผู้รับมอบอำนาจในการร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีอาญาต่อบุคคล และนิติบุคคล รวม 10 คน ดังนี้
1.บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
2.นายณิทธิมน หัสดินทร ณ อยุธยา
3.นายสุทธิชัย แซ่หยุ่น
4.นายพนา จันทรวิโรจน์
5.นายเชวง จริยะพิสุทธิ์
6.นายปกรณ์ บริมาสพร
7.นางสาวดวงกมล โชตะนา
8.นายเสริมสิน สมะลาภา
9.นายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ
10.น.ส.เขมกร วชิรวราการ
ในข้อหาหรือฐานความผิด ร่วมกันหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328 และตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (1) ในความผิดฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น หรือประชาชน
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวสืบเนื่องจากคณะกรรมการของบริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ NMG มีมติให้เรียกประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2558 ในวันพุธที่ 29 เมษายน 2558 เวลา 14.00 น. ณ ห้องแลนด์มาร์คบอลรูม ชั้น 7 โรงแรม เดอะ แลนด์มาร์ค กรุงเทพมหานคร เพื่อพิจารณาเรื่องต่างๆ โดยคณะกรรมการบริหาร NMG ได้แจ้งให้บริษัท ศูนย์ฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะนายทะเบียนผู้ถือหุ้น ให้ดำเนินการจัดส่งหนังสือเชิญประชุมสามัญผู้ถือหุ้น และเอกสารที่เกี่ยวข้องให้แก่ NEWS และผู้ถือหุ้นทั่วไป เพื่อขอเชิญประชุมสามัญผู้ถือหุ้น และแจ้งระเบียบวาระการประชุม ข้อบังคับของบริษัทเงื่อนไขหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติในการเข้าร่วมประชุมการมอบฉันทะ และการออกเสียงลงคะแนน และแนบหนังสือมอบฉันทะในกรณีที่ผู้ถือหุ้นไม่สามารถเข้าร่วมประชุมด้วยตนเอง เพื่อให้ผู้ถือหุ้นทำหนังสือมอบฉันทะให้บุคคลอื่นเข้าร่วมประชุม และลงมติตามระเบียบวาระแทนตนเอง ซึ่งในการนี้ NEWS ได้มอบฉันทะให้ นายสุวัตร อภัยภักดิ์ เป็นผู้รับมอบฉันทะในการเข้าร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้นแทน แต่เมื่อถึงวันประชุม ปรากฏว่า พนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นลูกจ้าง หรือตัวแทนของคณะกรรมการ NMG ได้ตรวจสอบเอกสารแล้วยืนยันว่าถูกต้อง แต่ได้ปฏิเสธรับการลงทะเบียน โดยอ้างว่าคณะกรรมการบริหารบริษัทบ้าง ประธานกรรมการบริหารบ้าง มีคำสั่งห้ามมิให้ SLC หรือ NEWS หรือผู้เป็นตัวแทนผู้รับมอบฉันทะเข้าร่วมประชุม โดยไม่ให้เหตุผลใดๆ อีก
ต่อมา เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2558 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้มีหนังสือขอให้ NMG ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ชี้แจงข้อเท็จจริง และเหตุผลที่ประธานในที่ประชุมไม่อนุญาตให้ผู้ถือหุ้นบางรายเข้าร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้น โดยผู้ถือหุ้นดังกล่าวเป็นผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้นหรือไม่ รวมทั้งการกระทำดังกล่าว ประธานในที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้ดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือข้อบังคับของบริษัทข้อใด หรือไม่ อย่างไร ปรากฏว่า ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ทำหนังสือแจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยมีผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 เป็นผู้ลงนามในการทำหนังสือโดยอ้างว่า ผู้ถือหุ้นกลุ่มใหม่ได้เข้าถือหุ้นของบริษัทในช่วงที่ผ่านมา โดยมีเจตนาที่จะร่วมกันใช้สิทธิออกเสียงในฐานะผู้ถือหุ้นเพื่อเข้าครอบงำกิจการของบริษัท โดยที่มิได้ปฏิบัติให้เป็นตามหลักเกณฑ์ และบทบัญญัติของกฎหมายที่เกี่ยวข้องในเรื่องของการครอบงำกิจการ
ซึ่งได้แก่ พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 (รวมที่แก้ไขเพิ่มเติม) และประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ ทจ. 12/2554 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการ (รวมเรียกว่า “หลักเกณฑ์การเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการ”) อันเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และได้ระบุรายชื่อ และรายละเอียดการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นกลุ่มใหม่แนบท้ายหนังสือชี้แจง
โดยหนังสือชี้แจงของ NMG ได้ถูกส่งให้แก่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตามวิธีการสารสนเทศที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกำหนด โดยผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งนักลงทุน และประชาชนทั่วไปสามารถอ่านและเข้าถึงได้โดยง่าย ผ่านทางเว็บไซต์ www.set.or.th ซึ่งทาง NEWS เห็นว่า การชี้แจงดังกล่าวเป็นการเสนอข้อมูลผ่านระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และเป็นการกระทำฐานใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สาม โดยประการที่น่าจะทำให้เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชังด้วยการโฆษณา
เนื่องจาก NEWS ได้เข้าถือหุ้นของ NMG โดยปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ข้อบังคับของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จึงเป็นผู้ถือหุ้นโดยชอบด้วยกฎหมาย และมีสิทธิที่จะเข้าร่วมประชุมใหญ่เพื่อออกเสียงลงคะแนนอันเป็นการใช้สิทธิตามกฎหมาย และไม่เคยมีนิติสัมพันธ์ใดๆ กับบุคคลผู้มีชื่อในบัญชีรายชื่อตามที่ NMG กล่าวอ้างแต่อย่างใด นอกจากนี้ NEWS ไม่เคยมีการกระทำการเพื่อเข้าครอบงำกิจการของ NMG โดยที่มิได้ปฏิบัติให้เป็นตามหลักเกณฑ์และบทบัญญัติของกฎหมายที่เกี่ยวข้องในเรื่องของการครอบงำกิจการแต่อย่างใด การกระทำของ NMG กับพวก จึงเป็นการลงข้อความเท็จ หรือใส่ความเท็จ ทำให้ NEWS ได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชังจากบุคคลอื่นที่อ่านข้อมูล และทราบข่าว
นอกจากนี้ การมีหนังสือแจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในนาม บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ซึ่งมีผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 ถึงที่ 10 เป็นกรรมการ และผู้บริหาร มีหน้าที่รับผิดชอบร่วมกันตามกฎหมาย อีกทั้งไม่ปรากฏว่า มีกรรมการคนใดห้ามปรามทักท้วง แสดงว่าการกระทำในนามของ NMG ได้รับความเห็นชอบจากกรรมการผู้บริหารทุกคนร่วมกัน ดังนั้น คณะกรรมการบริษัทในฐานะผู้แทนนิติบุคคล จึงมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบตามกฎหมายร่วมกันทุกคน บริษัท นิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จึงมีความประสงค์ขอแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีอาญาต่อบุคคลดังกล่าว จนกว่าคดีจะถึงที่สุด