ธ.กสิกรฯ ช่วยแบ่งเบาภาะลูกค้า ประกาศขยายมาตรการพักเงินต้น และปรับลด ดบ. จนถึง 31 ต.ค.นี้ เผยมีการเข้าไปช่วยปรับโครงสร้างหนี้ก่อนที่จะมีการผิดนัดชำระ โดยกลุ่มที่เจอผลกระทบหนักจะได้รับการช่วยเหลือด้าน ดบ. อย่างเต็มที่ แถมพักชำระเงินต้นนานถึง 1 ปี
นายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ต้องเผชิญกับปัญหาการทำธุรกิจตลอดตั้งแต่เหตุการณ์น้ำท่วม ปัญหาทางการเมือง ค่าแรงงานขั้นต่ำและค่าเงินบาท โดยปีนี้เศรษฐกิจดูเหมือนจะดีขึ้น แต่ยังมาประสบปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำและหนี้ครัวเรือนที่ทำให้กำลังซื้อในประเทศหดตัว ซึ่งส่งผลกระทบทำให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมีรายได้ลดลง
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาธนาคารกสิกรไทยออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระลูกค้าและให้ลูกค้าดำเนินธุรกิจต่อไปได้ โดยรูปแบบการช่วยเหลือขึ้นอยู่กับความรุนแรงของผลกระทบที่ลูกค้าได้รับ ซึ่งธนาคารให้ความช่วยเหลือทั้งการพักชำระเงินต้นและลดดอกเบี้ย
สำหรับไตรมาสแรกที่ผ่านมาธนาคารให้ความช่วยเหลือลูกค้าเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบไปแล้ว 10,115 ราย คิดเป็นยอดวงเงินสินเชื่อ 52,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเข้าไปช่วยเหลือและปรับโครงสร้างหนี้ก่อนที่ลูกค้าจะผิดนัดชำระ โดยมีทั้งลดดอกเบี้ยเงินกู้ ซึ่งธนาคารพิจารณาลดดอกเบี้ยอย่างเต็มที่สำหรับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบหนักเพื่อให้ลูกค้าดำเนินธุรกิจได้ และการพักชำระเงินต้นนานสูงสุด 12 เดือน
นอกจากนี้ ธนาคารยังสนับสนุนเงินทุนให้กับธุรกิจเอสเอ็มอีที่ต้องการลงทุนเพิ่มหรือเพิ่มสภาพคล่อง โดยไตรมาสแรกธนาคารปล่อยสินเชื่อเพิ่ม 64,000 ล้านบาท ซึ่งขยายตัวกว่าร้อยละ 40 จากไตรมาส 4 ปีที่ผ่านมาและคาดว่าไตรมาส 2 ธนาคารจะปล่อยสินเชื่อเพิ่มเท่ากับไตรมาสแรก
ทั้งนี้ ธนาคารกสิกรไทยจะสนับสนุนและให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทุกวิกฤติ เพื่อให้ธุรกิจเติบโตและอยู่รอดได้ ดังนั้น ธนาคารจึงขยายระยะเวลามาตรการช่วยเหลือในช่วงเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวออกไปจนถึง 31 ตุลาคม 2558