นายแบงก์มั่นใจเศรษฐกิจครึ่งปีหลังจะดีขึ้นจากงบประมาณการลงทุนของภาครัฐ และการท่องเที่ยว

นายแบงก์ คาด กนง.คงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 1.75% ในการประชุมวันนี้ เพราะการปรับลด 0.25% ครั้งที่แล้วยังไม่ได้เห็นผลกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างชัดเจน โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมในการปรับลดดอกเบี้ยอีก 0.25% น่าจะอยู่ในช่วงไตรมาส 3 หรือไตรมาส 4 เพื่อรอดูผลกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลก่อน หากยังไม่ฟื้นตัวก็สามารถนำมาตรการการลดอัตราดอกเบี้ยมาใช้ได้ พร้อมมั่นใจเศรษฐกิจครึ่งปีหลังจะดีขึ้น จากงบประมาณการลงทุนของภาครัฐ และการท่องเที่ยวที่ขยายตัว ซึ่งน่าจะเป็นผลดีทำให้สินเชื่อขยายตัวได้ดีขึ้นเช่นกัน

นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังจะดีขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และแรงกระตุ้นจากการลงทุนของภาครัฐ โดยคาดการณ์อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปีนี้โตร้อยละ 3 ขณะที่การขยายตัวสินเชื่อของธนาคารกรุงเทพ คาดว่าจะโตร้อยละ 3-5 ใกล้เคียงกับการเติบโตของเศรษฐกิจ ซึ่งยังคงเป็นเป้าหมายเดิมที่ธนาคารตั้งไว้

นายชาติศิริ กล่าวว่า การลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงร้อยละ 0.25 ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่แล้วยังไม่ได้เห็นผลกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างชัดเจน เนื่องจากต้องพิจารณาปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ ประกอบด้วย

ด้าน นายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การประชุม กนง.วันนี้ (29 เม.ย.) คงไม่ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง เนื่องจากต้องรอดูผลจากการลดดอกเบี้ยครั้งที่แล้วว่าช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้หรือไม่ ซึ่งแม้ว่าดอกเบี้ยจะต่ำลงแต่ไม่มีผลต่อเงินฝากของธนาคาร โดยอัตราการขยายตัวของเงินฝาก และสินเชื่อยังเติบโตในทิศทางเดียวกัน

ส่วนแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะดีขึ้นจากงบประมาณการลงทุนของภาครัฐ และการท่องเที่ยวที่ขยายตัว ซึ่งน่าจะเป็นผลดีทำให้สินเชื่อขยายตัวได้ดีขึ้นเช่นกัน

ด้าน นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า การประชุม กนง.วันนี้น่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ร้อยละ 1.75 เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันอยู่ในระดับที่ต่ำอยู่แล้ว และการลดอัตราดอกเบี้ยไม่ได้มีผลกระตุ้นเศรษฐกิจมาก หากปรับลดดอกเบี้ยให้มีผลต่อเศรษฐกิจต้องลดลงร้อยละ 0.50

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการประชุม กนง.ในช่วงที่เหลือของปีนี้น่าจะลดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 อีกครั้ง โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมน่าจะอยู่ในช่วงไตรมาส 3 หรือไตรมาส 4 เพื่อรอดูผลกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลก่อน หากภาวะเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวก็สามารถนำมาตรการการลดอัตราดอกเบี้ยมาใช้ได้