นายวิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้ปรับลดอกเบี้ยเงินกู้ลง 0.1-0.3% โดยดอกเบี้ยเอ็มโออาร์ลง 0.1% มาอยู่ที่ 7.4% เอ็มแอลอาร์ลง0.1% มาอยู่ที่ 6.525% ขณะที่เอ็มอาร์อาร์ลง 0.3% มาอยู่ที่ 7.82% มีผลวันที่ 21 พ.ค.เป็นต้นไป เพื่อเสริมสภาพคล่องให้ลูกค้าสามารถดำเนินธุรกิจ
"เศรษฐกิจที่ชะลอตัวส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจและภาคครัวเรือน ธนาคารพร้อมให้ความช่วยเหลือลูกค้าผู้ประกอบการเอสเอ็มอี โดยในไตรมาส 1 ที่ผ่านมาได้ปล่อยสินเชื่อใหม่กว่า30,000ล้านบาท ขยายตัวมากกว่า50%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 57ขณะที่ลูกค้าที่ประสบปัญหาขาดสภาพคล่องธนาคารได้ให้ความช่วยเหลือด้วยการปรับโครงสร้างหนี้ไปแล้วเป็นจำนวน17,000ล้านบาท ซึ่งธนาคารพร้อมอัดฉีดเม็ดเงินเพิ่มเติมอีก30,000ล้านบาท รวมถึงมีมาตรการลดหย่อนเงื่อนไขการชำระเงินกู้ สำหรับลูกค้าที่มีปัญหา"
ส่วนลูกค้ารายย่อยธนาคารมีแนวทางในการดูแลช่วยเหลือลูกค้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะลูกค้าในกลุ่มสินเชื่อบ้านเนื่องจากบ้านเป็นปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญธนาคารจึงเดินหน้าที่จะช่วยให้ลูกค้าสามารถก้าวผ่านช่วงเวลาที่เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันธนาคารตระหนักถึงความเดือดร้อนของลูกค้า จึงตัดสินใจออกมาตรการต่างๆเพื่อช่วยให้ลูกค้าของเราสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพดังเช่นภาวะปกติพร้อมช่วยเหลือลูกค้าที่มีรายได้จากการฝากเงิน โดยประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากทุกประเภท เพื่อตอกย้ำถึงจุดยืนของธนาคารในการอยู่เคียงข้างและให้ความช่วยเหลือลูกค้าของเราอย่างเต็มที่ในทุกสถานการณ์
"เศรษฐกิจที่ชะลอตัวส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจและภาคครัวเรือน ธนาคารพร้อมให้ความช่วยเหลือลูกค้าผู้ประกอบการเอสเอ็มอี โดยในไตรมาส 1 ที่ผ่านมาได้ปล่อยสินเชื่อใหม่กว่า30,000ล้านบาท ขยายตัวมากกว่า50%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 57ขณะที่ลูกค้าที่ประสบปัญหาขาดสภาพคล่องธนาคารได้ให้ความช่วยเหลือด้วยการปรับโครงสร้างหนี้ไปแล้วเป็นจำนวน17,000ล้านบาท ซึ่งธนาคารพร้อมอัดฉีดเม็ดเงินเพิ่มเติมอีก30,000ล้านบาท รวมถึงมีมาตรการลดหย่อนเงื่อนไขการชำระเงินกู้ สำหรับลูกค้าที่มีปัญหา"
ส่วนลูกค้ารายย่อยธนาคารมีแนวทางในการดูแลช่วยเหลือลูกค้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะลูกค้าในกลุ่มสินเชื่อบ้านเนื่องจากบ้านเป็นปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญธนาคารจึงเดินหน้าที่จะช่วยให้ลูกค้าสามารถก้าวผ่านช่วงเวลาที่เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันธนาคารตระหนักถึงความเดือดร้อนของลูกค้า จึงตัดสินใจออกมาตรการต่างๆเพื่อช่วยให้ลูกค้าของเราสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพดังเช่นภาวะปกติพร้อมช่วยเหลือลูกค้าที่มีรายได้จากการฝากเงิน โดยประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากทุกประเภท เพื่อตอกย้ำถึงจุดยืนของธนาคารในการอยู่เคียงข้างและให้ความช่วยเหลือลูกค้าของเราอย่างเต็มที่ในทุกสถานการณ์
