บริษัทแมคโดนัลด์ ญี่ปุ่น ประเมินว่าในเดือนธันวาคมปีนี้ ผลประกอบการจะขาดทุนมากถึง 38,000ล้านเยน หรือราว 12,600 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลประกอบการที่ขาดทุนมากที่สุด นับตั้งแต่บริษัทจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์เมื่อปี 2001 ทำให้ทางบริษัทตัดสินใจปิดสาขาที่กิจการไม่ดีมากกว่า 190 ร้านทั่วประเทศญี่ปุ่น
นางซาลาห์ แอล คาสซาโนว่า ประธานบริษัทแมคโนนัลด์ ญี่ปุ่น แถลงกับผู้สื่อข่าวที่กรุงโตเกียวว่า การตัดสินใจปิดร้านแมคโนนัลด์จำนวนมากเช่นนี้เป็นเรื่องที่เจ็บปวดแต่ก็จำเป็น โดยในจำนวนสาขา 190 แห่งที่จะถูกปิดกิจการนั้น 131 สาขาเป็นร้านที่ทางบริษัทแมคโดนัลด์ ญี่ปุ่นดำเนินการเอง และอีก 59 สาขาเป็นแฟรนชายส์ จำนวนสาขาที่ถูกปิดคิดเป็น 6% ของร้านแมคโดนัลด์ที่มีมากกว่า 3100 สาขาทั่วประเทศญี่ปุ่น
นอกจากปิดสาขาแล้ว แมคโดนัลด์ ญี่ปุ่นยังให้พนักงานเกษียณอายุก่อนกำหนด หรือ เออลี่ รีไทร์ ราว 100 คน
แมคโดนัลด์ ญี่ปุ่นเผชิญมรสุมเรื่องอื้อฉาวอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนกรกฎาคม ปีที่แล้ว มีข่าวลือว่าทางร้านใช้เนื้อไก่หมดอายุที่นำเข้าจากโรงงานในประเทศจีน และเมื่อเดือนมกราคม ปีนี้ ก็มีลูกค้าพบวัสดุแปลกปลอมที่คาดว่าจะเป็นฟันของมนุษย์ปะปนในอาหาร ทำให้ความนิยมในร้านแฮมเบอร์เกอร์ชื่อดังเสื่อมทรุดอย่างหนัก
ทั้งนี้ทางแมคโดนัลด์ ญี่ปุ่น ตั้งเป้าหมายว่าจะพลิกผลประกอบการให้กลับมามีกำไรภายในเดือนธันวาคม ปี 2016 หากแต่สถานการณ์ดูเหมือนจะยากลำบากอย่างยิ่ง.