xs
xsm
sm
md
lg

“AAV” ประกาศกร้าวขอเป็นสายการบินแห่งชาติ ตั้งเป้าเติบโตปีนี้ 20% (ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น หรือ AAV
ASTVผู้จัดการ - AAV ประกาศกร้าวขอเป็นสายการบินแห่งชาติ ตั้งเป้ารายได้เติบโตปีนี้ไม่น้อยกว่า 20% ฟุ้งแชร์มาเกตอันดับ 1 หลังเศรษฐกิจฟื้นตัว มั่นใจปีนี้มีกำไรสูงสุดในรอบ 11 ปี โวไตรมาส 1/2558 ฟันรายได้ผลประกอบการกว่า 7,734 ล้านบาท กางแผนกลยุทธ์เปิดเส้นทางบินเพิ่มไปจีน รองรับนักท่องเที่ยวจีน และอู่ตะเภา แก้ปัญหาแออัดในดอนเมือง ยันผ่านมาตรฐาน ICAO แน่นอน 



นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น หรือ AAV กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าผลประกอบการรายได้ในปีนี้คาดว่าจะเติบโตไม่น้อยกว่า 20% โดยเฉพาะในไตรมาสที่ 1/2558 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 923 ล้านบาท และรายได้ที่ 7,734 ล้านบาท จากอัตราขนส่งผู้โดยสาร หรือโหลดแฟกเตอร์ที่เพิ่มมากขึ้นถึง 83% ซึ่งหากเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ คาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวเติบโตมากขึ้นถึง 25% ขณะที่จำนวนผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 14.5 ล้านคน

“ในปีนี้บริษัทฯ คาดว่าจะมีกำไรสูงสุดตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา 11 ปี เนื่องจากต้นทุนด้านราคาน้ำมันปรับตัวลงเหลือ 80-85 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล จากเดิมที่ 120 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ทำให้ต้นทุนการบินลดลง 50% ส่งผลดีต่อผลประกอบการ อีกทั้งสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ รัฐบาลได้ประกาศยกเลิกกฎอัยการศึก ทำให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศมีความเชื่อมั่นในการเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น และช่วงเทศกาลต่างๆ ของประเทศไทยที่รัฐบาลประกาศเป็นวันหยุดยาวต่อเนื่องกันหลายวัน นอกจากนี้ บริษัทฯ เตรียมที่จะเปิดเส้นทางการบินใหม่ทั้งในประเทศ และต่างประเทศเพิ่มมากขึ้นกว่าที่มีอยู่เดิม ซึ่งจะทำให้ผลประกอบการของบริษัทมีทั้งรายได้ และกำไรเติบโตแบบก้าวกระโดด และมีศักยภาพการดำเนินธุรกิจสามารถเทียบเท่ากับสายการบินแห่งชาติได้”

ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ได้มีแผนในการเพิ่มจำนวนเครื่องบินใหม่จากเดิมที่มีอยู่ 40 ลำ โดยมีแผนที่จะเพิ่มใหม่ในปีนี้ จำนวน 5 ลำ โดยมีการส่งมอบเครื่องบินแอร์บัส A 320 ไปแล้ว จำนวน 2 ลำ และจะทยอยส่งมอบอีก 3 ลำ จนครบ 5 ลำ ภายในสิ้นปีนี้เพื่อเป็นการรองรับจำนวนผู้โดยสารที่มีแนวโน้มปริมาณเพิ่มมากขึ้น ขณะที่ใน 2559 บริษัทฯ วางแผนที่จะเพิ่มจำนวนเครื่องบินอีกเฉลี่ยปีละ 5 ลำ ต่อเนื่องจนครบ 60 ลำ ภายในระยะเวลา 3 ปี ซึ่งจะเสริมศักยภาพธุรกิจการบินรองรับผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 1.5-2 ล้านคน ในปี 2558 หรือ 16 ล้านคน ในปี 2559 และจำนวน 18 ล้านคน ในปี 2560

ส่วนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางเข้าไทยเพิ่มมากขึ้นนั้น ในส่วนของไทยแอร์เอเชียเตรียมเปิดจุดบินจากจีน 3 เมือง เข้ามาประเทศไทย โดยศึกษาเส้นทางบินไปอู่ตะเภา เนื่องจากคนจีนนิยมเดินทางไปพัทยา และมองว่า สนามบินอู่ตะเภาเป็นจุดที่มีศักยภาพ ซึ่งขณะนี้ได้เจรจากับทางทางการจีนเรียบร้อยแล้ว และไทยแอร์เอเชีย มีความพร้อมในการให้บริการเต็มที่ เหลือเพียงรัฐบาลไทยพัฒนาสนามบินเท่านั้น ส่วนการรองรับด้านการบริการผู้โดยสารจีน ลูกเรือทุกเที่ยวบิน เคาน์เตอร์เช็กอิน และการดูแลความปลอดภัยที่ใช้พนักงานที่พูดภาษาจีนได้ เพราะผู้โดยสารจีน มีจำนวนมากที่สุดถึง 19-20% ของจำนวนผู้โดยสารทั้งหมด ซึ่งปัจจุบันไทยแอร์เอเชียให้บริการเที่ยวบินทุกวันกว่า 20 เที่ยวบิน ใน 10 เมือง 13 จุดบิน

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ เชื่อมั่นว่า ในเดือนกรกฎาคมนี้จะแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้เรียบร้อย โดยเฉพาะเรื่องข้อบกพร่องทางมาตรฐานการบิน หรือ SSC ส่วนแนวทางในการแก้ไขมาตรฐานในระยะยาวจะใช้เวลามากกว่า 1 ปี ดังนั้น จึงเชื่อว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะไม่ส่งผลกระทบต่อสายการบินไทยแอร์เอเชีย โดยในช่วงครึ่งปีหลังมีแผนเพิ่มเส้นทางบินจากจีนมาไทยอีก 2-3 เส้นทาง แต่หากผลการตรวจสอบของ ICAO มีปัญหา ก็จะปรับแผนเพิ่มเส้นทางบินในประเทศอื่นแทน และในส่วนของแอร์เอเชียเอ็กซ์ ยังบินตามเส้นทางเดิมปกติ แต่ยังไม่สามารถขออนุญาตบินในเส่นทางใหม่ได้ โดยเฉพาะเส้นทางบินซัปโปโร ญี่ปุ่น ที่จะหมดอายุใบอนุญาตในเดือนพฤษภาคมนี้ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาขอขยายเส้นทางการบินนั้นเชื่อว่าจะขออนุญาตเปิดเส้นทางบินใหม่ได้

พร้อมกันนี้ ยังมั่นใจว่าสายการบินพันธมิตร 6 สายการบิน ประกอบด้วย แอร์เอเชีย แอร์เอเชียเอ็กซ์ การบินไทย นกแอร์ นกสกู๊ด บางกอกแอร์ มีมาตรฐานการบิน มีความพร้อมหากถูกตรวจสอบอีกรอบจากหลักเกณฑ์ใหม่ของกรมการบินพลเรือนที่แก้ไขล่าสุดออกมาแน่นอน
กำลังโหลดความคิดเห็น