“รพ.ลาดพร้าว” เล็งขายไอพีโอ 200 ล้านหุ้น เพื่อใช้เงินระดมทุนสร้างศูนย์การแพทย์ พร้อมเดินหน้าเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เปิดเผยว่า บริษัท โรงพยาบาล ลาดพร้าว จำกัด (มหาชน) ได้ยื่น Filing version แรก เมื่อวันที่ 6 พ.ค. 2558 เนื่องจากบริษัทจะเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนแก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 200 ล้านหุ้น เสนอขายประชาชนทั่วไป 180 ล้านหุ้น และอีก 20 ล้านหุ้น เสนอขายต่อกรรมการ และ/หรือ ผู้บริหารของบริษัท และ/หรือบริษัทย่อยของบริษัท โดยมี บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
สำหรับวัตถุประสงค์ของการระดมทุนในครั้งนี้เพื่อใช้ลงทุนก่อสร้างอาคารศูนย์การแพทย์ประกันสังคมลาดพร้าว ลงทุนก่อสร้างสถานพักฟื้นและดูแลผู้สูงอายุลาดพร้าว ลงทุนในการก่อสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่ และ/หรือลงทุนในหุ้นสามัญของโรงพยาบาลอื่น ชำระคืนเงินกู้ยืม และเงินทุนหมุนเวียน โดยบริษัทฯ มีความประสงค์จะขอเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. (SET)
โดย บริษัท โรงพยาบาล ลาดพร้าว จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจสถานพยาบาลเอกชนประเภทรับผู้ป่วยไว้ค้างคืน โดยใช้ชื่อว่า “โรงพยาบาลลาดพร้าว” สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทฯ งวดปี 2557 มีสินทรัพย์รวม 1,148.20 ล้านบาท หนี้สินรวม 612.28 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้น 535.92 ล้านบาท โดยมีรายได้รวม 1,136.57 ล้านบาท กำไรสุทธิ 99.88 ล้านบาท
โดย ณ วันที่ 10 เม.ย.2558 บริษัทมีทุนจดทะเบียนที่ออก และเรียกชำระแล้ว 275,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 550,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ภายหลังจากการเสนอขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนในครั้งนี้ จำนวน 200,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท บริษัทฯ จะมีทุนจดทะเบียนที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งสิ้น 375,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 750,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท
สำหรับผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทคือ บริษัท แอล.พี.โฮลดิ้ง จำกัด ถือหุ้น 200,987,200 หุ้น (36.54%) หลังเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้แล้วจะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 26.80% รองลงมาเป็นกลุ่มตันฑเทอดธรรม ถือหุ้น 36,894,220 หุ้น (6.71%) หลังเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้แล้วจะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 5.05% แต่จะถือหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 37,894,220 หุ้น
ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิจากงบเฉพาะกิจการภายหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และเงินสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่กำหนดไว้ในกฎหมาย และข้อบังคับของบริษัท