ประธานบอร์ดโรงพยาบาลลาดพร้าว เผยเตรียมเข้าระดมทุนในตลาดหุ้นไทย จ่อขายหุ้น IPO กว่า 200 ล้านหุ้น เพื่อใช้ขยายกิจการครอบคลุมการให้บริการด้านรักษาพยาบาล และดูแลสุขภาพแบบครบวงจร ประเมินราคา 4.90-5.00 บาท/หุ้น คาดได้ข้อสรุป และเข้าเทรดได้ทันภายในสิ้นเดือนตุลาคมนี้
นายแพทย์อังกูร ฉันทนาวานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โรงพยาบาลลาดพร้าว หรือ LPH กล่าวว่า บริษัทฯ เตรียมที่จะเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ โดยจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนทั้งสิ้น 200 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 26.67 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออก และเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ มีทุนจดทะเบียน จำนวน 375 ล้านบาท โดยทุนที่ออกจำหน่ายและเรียกชำระแล้ว มีจำนวน 275 ล้านบาท คิดเป็น 550 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท โดยแบ่งสัดส่วนเป็นเสนอขายแก่ประชาชนทั่วไป จำนวน 180 ล้านหุ้น ส่วนที่เหลือ 20 ล้านหุ้น จะเสนอขายให้แก่กรรมการ และผู้บริหารของบริษัทฯ ที่ราคาเดียวกันกับราคา IPO ทั้งนี้ กรรมการและผู้บริหารที่จองซื้อหุ้นจำนวนดังกล่าวมีความสมัครใจจะนำหุ้นมาฝากเพื่อห้ามขายทั้งจำนวนเป็นระยะเวลา 1 ปี เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่นักลงทุน ซึ่งคาดว่าจะสามารถได้เงินระดุมทุนจากการขายหุ้น IPO ในครั้งนี้ประมาณ 980-1,000 ล้านบาท โดยประเมินราคาหุ้นไว้ที่ประมาณ 4.90-5.00 บาท/หุ้น ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปในเรื่องกาประเมินราคา และเข้าทำการซื้อขายหุ้นสามัญได้ภายในปลายเดือนตุลาคมนี้
“เงินที่ได้จากการระดมทุนขายหุ้น IPO ในครั้งนี้ บริษัทจะนำไปลงทุนในโครงการศูนย์ประกันสังคม จำนวน 150 ล้านบาท ก่อสร้างศูนย์พักฟื้นดูแลผู้สูงอายุ จำนวน 157 ล้านบาท และโครงการสร้างโรงพยาบาลลาดพร้าวแห่งใหม่ ในพื้นที่อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี จำนวน 600 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะนำไปชำระเงินกู้ยืม และเป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในกิจการของบริษัทฯ”
ทั้งนี้ จากผลการดำเนินงานบริษัทฯ ที่ผ่านมาตั้งแต่ 2555-2557 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้รวมทั้งสิ้น จำนวน 917.43, 1,063.07 และ 1,136.57 ล้านบาทตามลำดับ หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ร้อยละ 11.30 และมีกำไรสุทธิสำหรับปี 2555-2557 เท่ากับ 79.5 ล้านบาท 108.43 ล้านบาท และ 99.88 ล้านบาทตามลำดับ
ขณะที่ในส่วนของรายได้ 6 เดือนแรกของปี 2558 บริษัทฯ มีรายได้อยู่ที่ 600.32 ล้านบาท และกำไรสุทธิที่ 31.92 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีบริษัทย่อย คือ AMARC ดำเนินธุรกิจบริการตรวจวิเคราะห์ทดสอบและวิจัยด้านอาหารผลิตผลการเกษตรและยา ซึ่งทำรายได้ให้บริษัทอย่างมีนัยสำคัญ โดยสัดส่วนรายได้จากธุรกิจด้านการรักษาพยาบาลประมาณ 90% และรายได้จากบริษัทลูกประมาณ 10% นอกจากนี้ รายได้ในส่วนของธุรกิจรักษาพยาบาลนั้นแบ่งเป็นจากการชำระด้วยเงินสด 55% และรายได้จากผู้ป่วยที่ใช้สิทธิประกันสังคม 45%
ขณะที่อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) สิ้นสุดไตรมาส 2 ปี 2558 อยู่ที่ 1.31 เท่า ซึ่งหลังเข้าระดมทุนแล้วคาดว่าหนี้สินต่อทุนจะลดลงเหลือประมาณ 0.5 เท่า
