xs
xsm
sm
md
lg

เอ็ม โทรีเซน เอเชีย โฮลดิ้งส์ เหนือจอง 7.75บาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


พีเอ็ม โทรีเซน เอเชีย โฮลดิ้งส์ เทรดวันแรกเหนือจอง 7.75 บาท หรือเพิ่มขึ้น 43.06% จากราคาจองที่กำหนดไว้หุ้นละ 18 บาท ผู้บริหารเผยเป็นตามคาดเพราะ P/E ratio แบบ Fully diluted ต่ำกว่า P/E ratio ของอุตสาหกรรม และต่ำกว่าหมวดธุรกิจปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ กอปรกับ PMTA มีผลประกอบการมาดีอย่างต่อเนื่อง โบรกฯ มอง PMTA น่าสนใจเรื่องราคาเพราะให้ส่วนต่างราคาแก่นักลงทุนที่จองซื้อ การเพิ่มกำลังผลิต และขยายตลาดส่งออกหนุนผลงานเติบโต

วานนี้ หุ้น บริษัท พีเอ็ม โทรีเซน เอเชีย โฮลดิ้งส์ หรือ PMTA ผู้ประกอบกิจการผลิตปุ๋ยในประเทศเวียดนาม เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นวันแรก โดยเปิดตลาดพบว่า ราคาหุ้นที่ 27.50 บาท เหนือราคาจองที่กำหนดไว้หุ้นละ 18 บาท หรือเพิ่มขึ้น 9.50 บาท คิดเป็น 52.77% มูลค่าการซื้อขาย 192.38 ล้านบาท และระหว่างวันราคาหุ้นปรับขึ้นไปสูงสุดที่ บาท ต่ำสุดที่ บาท และมาปิดที่ 25.75 บาท เพิ่มขึ้น 7.75 บาท หรือ 43.06% มูลค่าซื้อขาย 1,086.54 ล้านบาท

นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ ประธานกรรมการ PMTA กล่าวว่า ราคาหุ้น PMTA ที่เข้าซื้อขายเป็นวันแรก ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือราคาจองมาอยู่ที่ 27.50 บาทต่อหุ้น จากราคา IPO ที่ 18 บาท ซึ่งเป็นตามคาดการณ์ เพราะราคานี้ P/E ratio แบบ Fully diluted อยู่ที่ 6.4 เท่า ซึ่งต่ำกว่า P/E ratio ของอุตสาหกรรม ที่อยู่ 8.2 เท่า และต่ำกว่าหมวดธุรกิจปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ 13.2 เท่า กอปรกับ PMTA มีผลประกอบการมาดีอย่างต่อเนื่อง เพราะ 3 ปีที่ผ่านมา มีกำไรสุทธิเกือบ 300 ล้านบาท

โดย PMTA เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายปุ๋ยเคมีคุณภาพสูงในประเทศเวียดนาม ที่มีส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่มปุ๋ยเคมีเกรดพรีเมียมสูงถึง 25% มีลูกค้าหลักที่ทำธุรกิจขายส่งมากกว่า 130 รายทั่วประเทศ และยังมีเครือข่ายผู้จำหน่ายปุ๋ยในต่างประเทศอีกกว่า 10 ราย รวมทั้งส่งออกไปขายยังประเทศต่างๆ อีกกว่า 32 ประเทศ โดยเฉพาะประเทศในภูมิภาคอาเซียน และกลุ่มประเทศแอฟริกา ซึ่งเป็นกลุ่มที่เติบโตสูง ซึ่งการระดมทุนครั้งนี้เพื่อใช้ขยายธุรกิจการลงทุนต่างประเทศ

บริษัทหลักทรัพย์เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ประเมินให้ราคาเป้าหมาย PMTA โดย Consensus ไว้ที่ 26-33 บาท เนื่องจากมองว่า PMTA มีความน่าสนใจในแง่ราคาเสนอขายที่ดูจะมีส่วนต่างให้แก่ผู้จองซื้อพอสมควร โดยหากสมมติฐานให้อัตรากำไรเติบโต 10% (vs ค่าเฉลี่ย 18% ต่อปี ก่อนหน้า) พบว่า ราคาเสนอขายคิดเป็น PER15F ที่ 5.8 เท่า ต่ำกว่าตัวเทียบเคียงอย่าง TCCC ซึ่งซื้อขายอยู่ที่ 8.7 เท่า ดังนั้น หากอิง valuation ของ TCCC มองว่า PMTA น่าจะขึ้นไปซื้อขายได้ในราว 27 บาท ส่วนในภาพธุรกิจกำไรอยู่ในเกณฑ์สม่ำเสมอดีหลัง TTA เข้ามาบริหาร และมีแนวโน้มจะเติบโตขึ้นได้อีกจากการขายกำลังการผลิต และเน้นบุกตลาดส่งออกที่ให้มาร์จิ้นสูง

อย่างไรก็ดี ภาคเกษตรในเวียดนามกำลังเปลี่ยนแปลง เพราะพื้นที่การเกษตรเริ่มลดลง เพราะเริ่มผันมาสู่อุตสาหกรรมมากขึ้น ทำให้ความต้องการผลผลิตทางการเกษตรต่อไร่จะเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งปุ๋ยเคมีเกษตรถือเป็นหนึ่งในกระบวนวิธีการเพิ่มผลผลิตนี้ ส่งผลดีต่อผู้ผลิตเคมีอย่าง PMTA โดยตรง นอกจากนี้ PMTA เพิ่งขยายกำลังการผลิตอีก 29% เสร็จในปี 2557 เพื่อรองรับอุปสงค์ข้างต้น รวมถึงขยายตลาดส่งออกเพิ่มเติมซึ่งจะช่วยขยายอัตรากำไรให้ดียิ่งขึ้นอีก

ภาวะธุรกิจของ PMTA มีส่วนแบ่งตลาด 25% ในปุ๋ย NPK และ 9% ในปุ๋ยเคมีเชิงผสม ของเวียดนาม ระหว่างปี 2555-57 มีอัตราการเติบโตของกำไรเฉลี่ยปีละ 22% ผลักดันจากความนิยมในปุ๋ยเคมีที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทดแทนปุ๋ยอินทรีย์แบบดั้งเดิม และความสำเร็จในการปรับปรุงการผลิตเพื่อสร้าง value added ของบริษัท

ทั้งนี้ จุดอ่อนของธุรกิจคือ ความผันผวนของฤดูฝนในเวียดนาม ซึ่งจะส่งผลต่อการใช้ปุ๋ยของเกษตรกร โดยโอกาสที่ PMTA กำลังจะมุ่งจากนี้ไปคือ การขยายตลาดส่งออกให้มากขึ้นจากเดิม 30% ของรายได้รวม ซึ่งจะช่วยขยายอัตรากำไรเพิ่มขึ้นได้อีก รวมถึงแผนการเพิ่มพื้นที่คลังสินค้าให้เช่า เพื่อเสริม Recurring income ในระยะยาว ส่วนแรงกดดันของธุรกิจนี้คือ ธุรกิจปุ๋ยแบบ Premium มีอัตรากำไรที่สูงเกือบ 20% ทำให้อาจดึงดูดผู้ประกอบการใหม่ๆ เข้ามาในตลาดได้ แต่การที่รัฐบาลเวียดนามยังคงเป็นผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดปุ๋ย ทำให้อาจมองได้ว่าเป็นเกราะกำบังอย่างหนึ่งที่ดีของธุรกิจนี้ได้

บล.ทิสโก้ ประเมินมูลค่าที่เหมาะสมของ PMTA เบื้องต้นไว้ที่ 30-33 บาท/หุ้น อ้างอิง PER ของคู่แข่งในตลาดโลกที่มีเฉลี่ยที่ 10 เท่า และ PER ของ TCCC ที่ประกอบกิจการแบบเดียวกันในไทยที่ประมาณ 8.7 เท่า โดยมองความเสี่ยงสำคัญ คือ อัตราแลกเปลี่ยนของเงินดอลลาร์ฯ, บาท และเงินด่อง เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบมากกว่า 50% เป็นเงินสกุลดอลลาร์ฯ และส่งออกราว 30%


กำลังโหลดความคิดเห็น