xs
xsm
sm
md
lg

เนชั่นร้อง สปช.-สนช.สอบมติ กสท. ผิดกฎหมาย หวั่นเปิดช่องนายทุนครอบงำขัดหลักปฏิรูปสื่อ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เนชั่นฯ รุกยื่นหนังสือประธาน สปช.-สนช. เรียกร้องตรวจสอบการทำงานของ กสท. กรณีรับรองมติ 3:2 ที่ระบุ SLC ซื้อหุ้นเนชั่น 12.21% ไม่ผิด ชี้เป็นมติที่ผิดกฎหมาย และเปิดช่องปัญหาครอบงำสื่อในอนาคต จี้ใช้กฎหมายสื่อชี้ขาดหวั่นเปิดช่องปัญหาใหม่ ครอบงำสื่อได้อย่างเสรี ขณะที่ สนช.ด้านสิทธิผู้บริโภคและสังคม ร่วมต้านการครอบงำสื่อ

นายเทพชัย หย่อง บรรณาธิการอำนวยการเครือเนชั่น พร้อมด้วย นายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และ น.ส.ดวงกมล โชตะนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทเนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป พร้อมด้วยประธานสหภาพฯพนักงานเนชั่น และประธานสหกรณ์ออมทรัพย์เนชั่น มัลติมีเดีย ได้เดินทางมายื่นหนังสือต่อประธานประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อ ขอให้ทั้งประธานทั้ง 2 องค์เร่งพิจารณาตรวจสอบมติ กสท.เมื่อวันที่ 30 มี.ค. ซึ่งผิดกฎหมายและขัดต่อหลักการปฏิรูปสื่อ อาจนำไปสู่เปิดช่องเป็นบรรทัดฐานใหม่ให้มีการครอบงำสื่อได้อย่างเสรี

จากผลการรับรองมติคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ (กสท.) เมื่อวันที่ 30 มี.ค.58 ที่ได้รับรองมติการประชุมคณะกรรมการ กสท.เมื่อวันที่ 23 มี.ค.58 กรณี บริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) จำกัด (มหาชน) หรือ SLC ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท สปริงนิวส์ เทเลวิชั่น จำกัด เจ้าของทีวีดิจตอลช่องข่าวสปริงนิวส์ ได้เข้าซื้อหุ้น NMG หรือบริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทแม่เจ้าของทีวีดิจิตอลช่องข่าวเนชั่นทีวี ไปแล้ว 12.21% ซึ่งขัดต่อประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกให้ใช้คลื่นความถี่ในกิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทัศน์เพื่อประกอบกิจการทางธุรกิจ พ.ศ.2556 หรือประกาศหลักเกณฑ์การประมูลทีวีดิจิตอล

โดยในการประชุมเมื่อวันที่ 23 มีการออกเสียง 3 แบบจากกรรมการ 5 คน โดย 2 คนใช้สิทธิ “งดออกเสียง” คือ พ.อ.นที ศุกลรัตน์ ประธานกสท. และ พ.ต.ท.ทวีศักดิ์ งามสง่า กรรมการ ขณะที่กรรมการ 2 เสียง “ระบุว่าผิด” คือ ดร.ธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ และ น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ ส่วนกรรมการอีก 1 คนออกเสียงว่า “ไม่ผิด” คือ ดร.พีระพงษ์ มานะกิจ คะเแนนโหวตครั้งนี้จึงเท่ากับ งดออกเสียง 2, ระบุผิด 2, ระบุไม่ผิด 1 แต่ในการรับรองมติดังกล่าวกลับมีผลออกมาเป็นคะแนนโหวต 3:2 กลายเป็นไม่ผิด 3 และผิด 2 เป็นฝ่ายแพ้ เพราะอ้างว่า นับคะแนนจากองค์ประชุม ทั้งที่ในทางปฏิบัติสากลไม่มีการประชุมที่ไหนใช้เสียงไม่ลงคะแนนไปนับรวมกับเสียงฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง จึงเห็นว่ามติ กสท.เป็นมติที่ผิดกฎหมาย

อีกทั้งจากมติ กสท.ที่ผิดกฎหมายนี้จะส่งผลเสียต่อวงการสื่อสารมวลชน และขัดต่อนโยบายการปฎิรูปสื่อที่ต้องการกระจายการถือครองสื่อให้มีเจ้าของที่หลากหลาย ไม่ให้หลายสื่อเข้าไปเป็นธุรกิจที่อยู่ภายใต้กลุ่มทุนใดกลุ่มทุนหนึ่ง ซึ่งมีหลักเกณฑ์ระบุไว้ชัดเจนในประกาศหลักเกณฑ์การประมูลทีวีดิจิตอลที่ไม่ให้กลุ่มทุนที่เกี่ยวข้องกัน หรือมีผลประโยชน์ร่วมกัน ถือครองช่องทีวีดิจิตอลประเภทเดียวกัน ถือหุ้นเกิน 10% เพื่อป้องกันปัญหาการครอบงำสื่อ ซึ่งเมื่อมติ กสท.ออกมาเช่นนี้จึงเท่ากับเป็นการเปิดช่องให้ต่อไปการครอบงำสื่อจะสามารถทำได้โดยง่าย ซึ่งจะส่งผลเสียตามมามากมาย จากกรณีตัวอย่าง SLC กับเนชั่นฯ อาจนำไปสู่การครอบงำสื่ออื่นตามมา

นอกจากนี้ ยังขัดต่อหลักจรรยาบรรณสื่อที่ต้องมีความเป็นกลาง นำเสนอข้อมูลข่าวสารด้วยข้อเท็จจริง ปราศจากการครอบงำ หรือชี้นำเพื่อผลประโยชน์ของนายทุน หรือเป็นเหตุให้สังคมเข้าใจผิด สร้างความแตกแยกขึ้นได้ หากสื่อหลายสื่อโดยเฉพาะสื่อประเภททีวีดิจิตอลช่องข่าว หากบิดเบือนข่าวสารเพื่อผลประโยชน์ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ทั้งในทางการเมือง และทางสังคม ก็นำมาซึ่งความเสียหายแน่นอน

สำหรับกรณีกรรมการ กสทช.2 ท่าน คือ ดร.ธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ และ น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ ที่ลงมติว่ากรณี SLC ซื้อหุ้นเนชั่น 12.21% เป็นการกระทำที่ผิดนั้นถือว่าเป็นการตัดสินใจ โดยยึดมั่นในหลักการของข้อกฎหมาย ทั้งตามประกาศการเกณฑ์การประมูลทีวีดิจิตอล และ พ.ร.บ..ประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์  ที่มีข้อห้ามระบุไว้ชัดเจน ในการถือหุ้นไขว้กันในกิจการสื่อประเภทเดียวกันเกินสัดส่วนที่เหมาะสม เพื่อป้องกันปัญหาครอบงำสื่อ และการปฏิรูปสื่อในภาพรวม ดังนั้น มติของ 2 กรรมการ กสทช.ที่ระบุว่าผิด จึงเป็นการยึดหลักการตามข้อกฎหมาย
กำลังโหลดความคิดเห็น