xs
xsm
sm
md
lg

“เอดีบี” ปรับลดจีดีพีของไทยปีนี้เหลือเติบโตแค่ 3.6% ลุ้นเบิกงบฯ-ลงทุนภาครัฐช่วย ศก.ฟื้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“เอดีบี” ปรับลดจีดีพีของไทยปีนี้เหลือเติบโตร้อยละ 3.6 เหตุส่งออกโตต่ำร้อยละ 1-2 และการบริโภคยังไม่ฟื้น พร้อมคาดหวังการเบิกจ่ายลงทุนภาครัฐช่วยเศรษฐกิจฟื้น

นางลัษมณ อรรถาพิช เศรษฐกรอาวุโสประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวอย่างช้าๆ มาจากการเมืองมีเสถียรภาพ การลงทุนภาครัฐ และราคาน้ำมันที่ปรับลง รวมทั้งการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว โดยธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) คาดอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปีนี้อยู่ที่ร้อยละ 3.6 ปรับลดจากเดิมที่คาดการณ์ไว้ว่าโตร้อยละ 3.9 และคาดการณ์ว่า ปี 2559 จะมีการขยายตัวร้อยละ 4.1 ซึ่งการประมาณการครั้งนี้ตั้งอยู่บนสมมติฐานว่ามีการเลือกตั้งต้นปี 2559 และรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งดำเนินนโยบายเศรษฐกิจที่ดี

สำหรับสาเหตุที่ปรับจีดีพีลดลง เนื่องจากการส่งออกขยายตัวน้อยเพียงร้อยละ 1-2 จากเดิมคาดว่าโตร้อยละ 3-4 โดยสินค้าเกษตรยังอ่อนแอ แต่การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมดีขึ้น โดยต้องติดตามอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจคู่ค้า ส่วนปี 2559 คาดว่าส่งออกจะดีขึ้นโตร้อยละ 3.5-4

นอกจากนี้ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคในช่วง 2 เดือนแรกปีนี้ยังไม่ฟื้นตัว เนื่องจากรายได้ภาคเกษตรยังมีปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ และมีหนี้ครัวเรือนสูง โดยคาดการบริโภคภาคเอกชนโตร้อยละ 2.5 แต่เชื่อว่านโยบายนาโนไฟแนนซ์จะช่วยผู้มีรายได้ต่ำเข้าถึงเงินทุนได้มากขึ้น การจับจ่ายจะดีขึ้น อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อปีนี้ต่ำอยู่ที่ร้อยละ 0.2 ตามราคาน้ำมันที่ต่ำ

นางลัษมณ กล่าวว่า ปัจจัยหลักขับเคลื่อนปีนี้ คือ การลงทุนภาครัฐจะกลับมาขยายตัว หลังจากหดตัวปีที่แล้วขยายตัวร้อยละ 7.5 โดยจะเร่งตัวขึ้นปีนี้จากการก่อสร้าง โครงสร้างพื้นฐานคมนาคมมูลค่า 3 ล้านล้านบาท และโครงการขนาดเล็ก เช่น การก่อสร้างถนน ส่วนโครงการขนาดใหญ่จะเริ่มเห็นเม็ดเงินปีหน้า

ส่วนการลงทุนภาคเอกชนเริ่มฟื้นตัวอย่างช้าๆ ตามโครงการลงทุนของภาครัฐ และได้ปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันต่ำ และการลดดอกเบี้ย นอกจากนี้ การที่รัฐบาลพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ 5 แห่งตามแนวชายแดน จะช่วยสงเสริมให้เอกชนลงทุน คาดว่าการลงทุนภาคเอกชนโตร้อยละ 3.5

ด้านการเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐบาลในช่วง 5 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2558 ดีขึ้น โดยเบิกจ่ายไปแล้วร้อยละ 42.6 และปีงบประมาณ 2559 กำหนดการขาดดุลไว้มากขึ้น เป็น 390,000 ล้านบาท เพื่อให้เม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจมากขึ้น โดยปัจจัยเสี่ยงเศรษฐกิจไทยขึ้นอยู่กับการลงทุนภาครัฐว่าจะสามารถเบิกจ่าย และดำเนินโครงการตามแผนหรือไม่ รัฐบาลตั้งเป้าเบิกจ่ายงบได้มากกว่าร้อยละ 90 และปัจจัยการเมืองยังคงมีความเสี่ยงบ้าง ส่วนปัจจัยภายนอก คือ ความเสี่ยงเงินทุนเคลื่อนย้ายผันผวนจากธนาคารกลางสหรัฐฯ ขึ้นดอกเบี้ย
กำลังโหลดความคิดเห็น