xs
xsm
sm
md
lg

DRT ขยับพอร์ตส่งออกเป็น 20% รับเปิดเออีซี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

สาธิต สุดบรรทัด
“ผลิตภัณฑ์ตราเพชร” วางเป้าเพิ่มพอร์ตยอดขายต่างประเทศขยับจาก 15% เป็น 20% รองรับการเปิดเออีซี พร้อมศึกษาแผนลงทุนตั้งโรงงานในภูมิภาคเอเชีย เผยเป้ารวมยอดขายทั้งปี 58 เติบโตขึ้น 4% หรือมีมูลค่ารวมเพิ่มเป็น 4,400 ล้านบาท

นายสาธิต สุดบรรทัด รองกรรมการผู้จัดการสายการขายและการตลาด บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT กล่าวถึงแผนรองรับยอดขายหลังจากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ว่า ทาง DRT วางเป้าภายในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า การส่งออกสินค้าไปจำหน่ายต่างประเทศมากขึ้น โดยมีความเชื่อมั่นตลาดยังขยายตัวได้ดี โดยจะขยายไปยังประเทศในกลุ่มอาเซียนทั้งหมดผ่านตัวแทนจำหน่าย (ดีลเลอร์) หรือพันธมิตรในแต่ละประเทศ อย่างไรก็ตาม บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายต่างประเทศเพิ่มเป็น 20% ของยอดขายรวมจากปัจจุบัน 15%

“ขณะนี้ยังคงเน้นการส่งออกไปยังประเทศอาเซียน ตลาดหลักยังเป็นกัมพูชา 50% ลาว 20% ที่เหลือเป็น จีน อินเดีย พม่า และฟิลิปปินส์ รวมถึงกำลังศึกษาการเข้าไปลงทุนตั้งโรงงานในต่างประเทศ ซึ่งได้แก่ กัมพูชา และพม่า โดยจะรวมกับพันธมิตรท้องถิ่น ในเบื้องต้นงบประมาณที่จะลงไปประมาณ 200 ล้านบาท คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ 2-3 ปีข้างหน้า เพื่อเป็นการลดต้นทุนค่าขนส่ง”

ทั้งนี้ บริษัทได้เตรียมงบลงทุน 100 ล้านบาท เพื่อซ่อมแซมเครื่องจักร และพัฒนาสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น พร้อมทั้งจะเน้นขยายสินค้าจับกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-บนมากขึ้น เพราะได้รับผลกระทบน้อยจากภาวะเศรษฐกิจจากที่ผ่านมา เน้นกลุ่มกลาง-ล่างเป็นหลัก และจะรักษาอัตรากำลังการผลิตของสินค้าให้อยู่ในระดับที่ 80% จากปีที่ผ่านมา ที่ใช้กำลังการผลิต 70% ซึ่งจะทำให้ต้นทุนการผลิตลดลง

นอกจากนี้ บริษัทมีแผนการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายให้หลายกหลายมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มโมเดิร์นเทรด ตั้งเป้าหมายขยายสัดส่วนยอดขายจากโมเดิร์นเทรดเพิ่มเป็น 25% จากปัจจุบันมียอดขายสัดส่วน 15% ของยอดขายรวม นอกจากนี้ ในโอกาสที่บริษัทครบรอบ 30 ปี จะสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งมากขึ้น ผ่านโฆษณาทางโทรทัศน์ และแจกของชำร่วยที่มีโลโก้ของบริษัท เพื่อสร้างการรับรู้จะจดจำแบรนด์

สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2558 บริษัทตั้งเป้าหมายมียอดขายเติบโตขึ้น 4% จากปีที่แล้ว หรือคิดเป็นมูลค่า 4,400 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนในประเทศ 85% และต่างประเทศ 15% อย่างไรก็ตาม ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นหน้าขายวัสดุ ถ้าเป็นช่วงปกติจะขายสินค้าได้อยู่แล้ว แต่ปีนี้จะต้องมีการทำการตลาดเพื่อส่งเสริมการขายมากขึ้น เพราะรายย่อยได้รับผลกระทบมากจากภาวะเศรษฐกิจและราคาสินค้าเกษตรที่ตกต่ำ โดยส่วนใหญ่เป็นซื้อเพื่อนำไปซ่อมแซมบ้าน ส่วนบ้านใหม่ยังน้อย

“ภาพรวมธุรกิจวัสดุก่อสร้างในปี 2558 จะขยายตัวได้ไม่เกิน 5% เนื่องจากตลาดในภูมิภาคที่เป็นตลาดส่วนใหญ่ เกษตรกรได้รับผลกระทบจากราคาสินค้าเกษตรที่ตกต่ำส่งผลให้รายได้ลดลง เป็นผลต่อเนื่องจากปี 2557 ขณะนี้ยังไม่ฟื้นตัว โดยเฉพาะภาคใต้ที่กำลังซื้อแผ่วไปมาก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เริ่มเห็นการฟื้นตัวบ้าง ส่วนภาคกลาง และตะวันออก ยังมีกำลังซื้อ ตลาดยังขยายตัวได้ สำหรับราคาวัสดุปีนี้ประเมินว่าจะทรงตัว ไม่มีการปรับราคาขึ้น”


กำลังโหลดความคิดเห็น