“เกศรา” เผยหุ้นได้รับผลดีจาก กนง.หั่นดอกเบี้ย มองภาพ ศก.ปีนี้ น่าจะดีขึ้นกว่าปีก่อน ซึ่งจะเป็นผลดีต่อกำไรของ บจ. ด้านแวดวง “ตลาดเงิน-ตลาดทุน” เห็นตรงกันว่า “เฟด” น่าจะปรับดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายน 2558 ขณะที่ตลาดหุ้นทั่วโลกดีดขึ้นรับ หลังเฟดยังคงดอกเบี้ย
นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวถึงผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมว่า ช่วยคลายความกังวลของนักลงทุน เพราะมีความชัดเจนมากขึ้นว่า เฟดคงใช้เวลาอีก 2-3 เดือน ที่จะประชุมกันใหม่ในการพิจารณาเรื่องดอกเบี้ย โดยเฟดจะต้องพิจารณาปัจจัยแวดล้อม ทั้งภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ เศรษฐกิจโลก ในการดำเนินนโยบายดอกเบี้ย เพราะหากเฟดขึ้นดอกเบี้ย จะทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น และกระทบต่อราคาสินค้าสหรัฐฯ มีราคาแพงขึ้นด้วย
นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์ไทย ยังได้ผลบวกจากการที่ กนง.ลดอัตราดอกเบี้ยลงร้อยละ 0.25 ในสัปดาห์ก่อนหน้านี้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งเชื่อว่าเศรษฐกิจปีนี้จะโตกว่าปีก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 0.7 ซึ่งจะเป็นผลดีต่อกำไรของบริษัทจดทะเบียน
นางเกศราย้ำว่า ตลท.ยังไม่จำเป็นต้องออกมาตรการเพื่อดูแลหุ้นร้อนแต่อย่างใด หลังจากได้ใช้มาตรการ Alert มาแล้ว ตั้งแต่ต้นปี เพื่อเตือนนักลงทุน โดยจะขอรอดูประสิทธิผลของมาตรการนี้อีกระยะหนึ่ง
ด้านนางวรวรรณ ธาราภูมิ นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์จัดการลงทุน กล่าวว่า ตลาดหุ้นทั่วโลกตอบรับผลประชุมเฟดที่ยังไม่ขึ้นดอกเบี้ย และยังเชื่อว่า จะยังไม่ปรับขึ้นก่อนเดือนกันยายน ซึ่งทำให้นักลงทุนระยะสั้นคลายความกังวล ส่วนนักลงทุนสถาบันที่เป็นนักลงทุนระยะยาว ก็ยังไม่เปลี่ยนนโยบายการลงทุน เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานยังเหมือนเดิม
ขณะที่นายเชาว์ เก่งชน กรรมการผู้จัดการ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย กล่าวว่า ที่ประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด ถอนคำว่า “อดทน” ออกจากแถลงการณ์ ถือเป็นสัญญาณว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วๆ นี้ แต่ยังสวนทางกับความกังวลที่มีในเรื่องตัวเลขเศรษฐกิจทั้งอัตราว่างงานที่อยู่ ร้อยละ 5.5 จากเป้าหมาย ร้อยละ 5-5.2 และเงินเฟ้อที่อยู่ร้อยละ 1.3 ต่ำกว่าเป้าหมายที่ร้อยละ 2 อยู่มาก ทำให้ตลาดการเงินโลก คาดการณ์ว่าการประชุมเฟดในเดือนมิถุนายนนี้จะเป็นการส่งสัญญาณเพื่อจะขึ้นดอกเบี้ยเท่านั้น และน่าจะขึ้นจริงในการประชุมเดือนกันยายนนี้
อย่างไรก็ตาม มองว่าจะส่งผลดีต่อตลาดเงินตลาดทุนบ้านไทย เนื่องจากเม็ดเงินลงทุนยังไม่มีท่าทีไหลออกกลับไปลงทุนในสหรัฐฯ เร็วๆ นี้
ด้านนายปกรณ์ พรรธนะแพทย์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า แม้เฟดจะยังไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่คณะกรรมการนโยบายการเงินหรือ กนง. ได้ปรับลดดอกเบี้ยลงแล้ว ร้อยละ 0.25 เนื่องจากต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ อย่างไรก็ตาม การกระตุ้นเศรษฐกิจที่สำคัญคือนโยบายการคลังที่ต้องมีการเร่งลงทุน เพราะหากลดดอกเบี้ยลงแล้วไม่มีการใช้จ่ายเศรษฐกิจไทยก็ยังไม่มีประสิทธิภาพ