ประธานสมาคมธนาคารไทยระบุตลาดเงินและตลาดหุ้นยังผันผวนรอความชัดเจนเฟดขึ้นดอกเบี้ย ยืนยันสภาพคล่องมีเพียงพอรองรับหากเงินทุนต่างชาติไหลกลับสหรัฐฯ
นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานสมาคมธนาคารไทยและประธานเจ้าหน้าที่บริหารทีเอ็มบี กล่าวว่า ต้องจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระหว่างวันที่ 17-18 มีนาคมนี้ ว่าจะมีการส่งสัญญาณเรื่องของอัตราดอกเบี้ยอย่างไรบ้าง ซึ่งจะสร้างความผันผวนให้กับอัตราแลกเปลี่ยนและตลาดหุ้นทั่วโลกต่อไปจนกว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งหากเฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ยก็จะทำให้มีเงินทุนไหลกลับไปสหรัฐฯ ซึ่งมีผลตอบแทนที่สูงกว่าตลาดหุ้นไทยก็จะปรับตัวลดลง ขณะที่เงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าและสภาพคล่องก็จะน้อยลงด้วย แต่ยืนยันว่าเศรษฐกิจไทยสามารถรองรับได้ เพราะสภาพคล่องมีเพียงพอ
นายบุญทักษ์ กล่าวว่า แม้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงร้อยละ 0.25 แต่ธนาคารพาณิชย์ส่วนใหญ่ยังไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงตาม เนื่องจากธนาคารพาณิชย์แต่ละแห่งมีต้นทุนทางการเงินแตกต่างกัน จึงขึ้นอยู่กับการพิจารณาแต่ละแห่ง การลดดอกเบี้ยในช่วงที่กำลังซื้อยังไม่ฟื้นตัวและไม่ใช่ช่วง season เช่น คริสต์มาส ปีใหม่ ก็ไม่ช่วยกระตุ้นการจับจ่าย อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าอัตราดอกเบี้ยไม่ได้เป็นต้นทุนสำคัญของผู้ประกอบการโดยเฉพาะเอสเอ็มอี สิ่งสำคัญ คือ เอสเอ็มอีเข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุน เพราะธนาคารพาณิชย์มีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อหลังผ่านวิกฤตปี 2540 ดังนั้น ต้องช่วยเหลือให้เอสเอ็มอีมีทุนในการประกอบธุรกิจ ซึ่งปีนี้คาดว่าสินเชื่อเอสเอ็มอีทั้งระบบจะโตเพียงร้อยละ 1-2 ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากแบงก์ยังมีความกังวลเรื่องของหนี้เสีย ขณะที่ภาพรวมสินเชื่อทุกประเภทโตร้อยละ 6-7 หากจีดีพีขยายตัวได้ร้อยละ 3-4
ส่วนของธนาคารทีเอ็มบี คาดว่า สินเชื่อเอสเอ็มอีจะโตร้อยละ 20 เนื่องจากมีความร่วมมือกับบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ในการปล่อยสินเชื่อให้ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการกับ บสย. และวันนี้ (17 มี.ค.) ทีเอ็มบี ได้ร่วมกับบริษัทในเครือบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ และโรงแรมและรีสอร์ตในเครือเซ็นทารา จัดโครงการ Lean Supply Chain by TMB สำหรับผู้ประกอบการสินค้าและบริการด้านสุขภาพและการโรงแรม เพื่อถ่ายทอดความรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ให้ผู้ประกอบการมีความสามารถ ในการแข่งขันและเติบโตได้อย่างยั่งยืน