“AQ” แจงปี 57 รายได้รวม 1,623.90 ล้านบาท ขณะที่ค่าใช้จ่าย และต้นทุนงานก่อสร้าง การขายและการบริหารโครงการใหม่ที่สูงกว่ารายได้ส่งผลให้ทั้งปีขาดทุนสุทธิ 287.57 ล้านบาท ด้าน “อารียา” แจงรายได้รวม 2,559.35 ล้านบาท เพิ่มจากปี 56 ซึ่งมีรายได้รวม 1,807.76 ล้านบาท ขณะที่ค่าใช้จ่ายปี 57 พุ่ง 2,375.853 ล้านบาท ส่งผลกำไรสุทธิทั้งปีเพียง 41.26 ล้านบาท
นายยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอคิว เอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปี 2557 ที่ผ่านมา บริษัทมีผลการดำเนินงานขาดทุนสุทธิ 287.57 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนหน้าที่มีกำไรสุทธิ 155.10 ล้านบาท โดยในปี 57 ที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการรวม 1,623.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 694.56 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 74.74% โดยอัตรากำไรขั้นต้นปี 57 อยู่ที่ 4.31% ลดลงจากปี 56 ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้น 26.58% หรือมีกำไรขั้นต้นลดลง 22.27% จากปี56
ทั้งนี้ การลดลงของกำไรขั้นต้น สืบเนื่องมาจากต้นทุนขายเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากบริษัทฯ มีการขายที่ดินแปลงใหญ่ ซึ่งในการขายที่ดินดังกล่าวมีกำไรขั้นต้นไม่มาก ประกอบกับราคาต้นทุนสินค้าที่เป็นโครงการเก่าต้องนำมาพัฒนาเพิ่มขึ้นเพื่อให้สินค้าขายได้ จึงทำให้ต้นทุนสินค้าเพิ่มขึ้น เมื่อต้นทุนสินค้าเพิ่มขึ้นจึงทำให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลงจากปี 56
นอกจากนี้ บริษัทยังมีผลขาดทุนจากกิจการโรงแรมจำนวน 44.74 ล้านบาท เนื่องจากปีได้รับผลกระทบจากปัญหาทางการเมืองซึ่งส่งผลให้อัตราการเช่าห้องพักลดลงจำนวนมาก ขณะเดียวกัน เศรษฐกิจยุโรปยังไม่ฟื้นตัว ส่งผลกระทบการท่องเที่ยว ดังนั้น ทางบริษัทพยายามหารายได้จากนักท่องเที่ยวเอเซีย ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นต่ำ จึงมีรายได้ไม่คุ้มกับต้นทุนคงที่ที่เกิดขึ้น
“ค่าใช้จ่ายในการขายปี 57 เพิ่มสูงขึ้นจากปี 56 ค่อนข้างมาก ประกอบกับการโฆษณาและมีค่านายหน้า เพื่อการขายสินค้าก่อนมีการรับรู้รายได้จึงทำให้ค่าใช้จ่ายในการขายสูงขึ้น ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการบริหารก็มีจำนวนสูงกว่าปี 56 กว่า 45.17 ล้านบาท จากการเพิ่มจำนวนบุคลากรให้เพียงพอกับจำนวนโครงการใหม่ 6 โครงการ และค่าใช้จ่ายในการดูแลโครงการเพิ่มขึ้น จากปัจจัยข้างต้นทำให้บริษัทและบริษัทย่อยมีผลขาดทุนสุทธิและขาดทุนเบ็ดเสร็จในปี 57 จำนวน 287.57 ล้านบาท”
ด้านนายวิศิษฎ์ เลาหพูนรังษี ประธานกรรมการ และกรรมการผู้จัดการ บริษัท อารียา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลการดำเนินงานในปี 57 ที่ผ่านมา มีรายได้รวม 2,559.35 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า ซึ่งมีรายได้รวม 1,807.76 ล้านบาท โดยที่กำไรสุทธิในปี 57 ของบริษัทอยู่ที่ 41.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 56 ซึ่งมีกำไรสุทธิรวม 13.77 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม แม้ว่ารายได้ของปี 57 ที่ผ่านมาจะเพิ่มสูงขึ้นจากปี 56 กว่า 852 ล้านบาทเศษ แต่เนื่องจากในปี 57 บริษัทมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นกว่า 2,375.53 ล้านบาท ทำให้ในปีที่ผ่านมา บริษัทมีกำไรสุทธิรวมที่ 41.26 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามในปีนี้บริษัทมีแผนจะออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 220 ล้านหุ้น ซึ่งล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการบริหารบริษัทมีมติให้ออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนในจำนวนดังกล่าวโดยมีมูลค่าที่ตราไว้ต่อหุ้นที่ 1 บาท ซึ่งจำนวนหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าวคิดเป็น 222.45% ของหุ้นที่จำหน่ายไป 980 ล้านหุ้น