xs
xsm
sm
md
lg

สมาร์ทคอนกรีต ไตรมาส 3 กำไรพุ่ง 530%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“สมาร์ทคอนกรีต” โชว์ผลประกอบการไตรมาส 3/57 กำไรโต 530 % ขณะที่งวด 9 เดือน กวาดรายได้ 337.55 ล้านบาท กำไรสุทธิ 40.83 ล้านบาท มั่นใจทั้งปีรายได้ 450 ล้านบาทตามเป้า คาดปี 2558 ธุรกิจวัสดุก่อสร้างคึกคัก รับอานิสงส์โครงการภาครัฐหนุนตลาดอสังหาฯ ก่อสร้างโตก้าวกระโดด เล็งขยายตัวแทนจำหน่าย ลูกค้าโครงการเพิ่มต่อเนื่อง พร้อมพัฒนาระบบกระจายสินค้าลุยตลาดทั่วประเทศ

นายประทีป ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท สมาร์ทคอนกรีต จำกัด (มหาชน) หรือ SMART ผู้ผลิตและจำหน่ายอิฐมวลเบาด้วยระบบอบไอน้ำภายใต้ความดันสูงเพื่อใช้ในงานก่อสร้าง และงานกั้นผนังอาคาร เปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาส 3/57 ว่า บริษัทมีรายได้รวมทั้งสิ้น 117.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 115.52 ล้านบาท จำนวน 1.6 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1.38% มีกำไรสุทธิ 19.55 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 3.10 ล้านบาท จำนวน 16.45 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 530.65%

ขณะที่ผลประกอบการงวด 9 เดือน บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 337.55 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 11.08% จากปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 303.89 ล้านบาท โดยรายได้รวมประกอบด้วย รายได้จากการขาย จำนวน 314.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 303.09 ล้านบาท จำนวน 11.81 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 3.90% และมีรายได้อื่น จำนวน 22.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.08 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 3,897.13% ขณะที่กำไรสุทธิรวม จำนวน 40.84 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 315.32% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 9.83 ล้านบาท

โดยผลประกอบการของบริษัทมีการเติบโตเพิ่มขึ้น เนื่องมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ซึ่งเกิดจากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น แต่ราคาจะเป็นไปตามกลไกตลาด เนื่องจากความต้องการของตลาดชะลอตัวตามปัจจัยทางการเมือง ทำให้ราคาขายปรับลดลงทั้งตลาดวัสดุก่อสร้าง นอกจากนี้ บริษัทยังมีรายได้พิเศษ จำนวน 22.65 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการแบ่งขายที่ดินเปล่าบางส่วนที่ไม่ได้ใช้ในการดำเนินธุรกิจให้แก่ บริษัท ซีซีพี เพวิ่งสโตนส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ เพื่อใช้ในการดำเนินธุรกิจ จำนวน 21.98 ล้านบาท และ 0.67 ล้านบาท เป็นในส่วนของรายได้จากอัตราแลกเปลี่ยน และรายได้จาการขายของเบ็ดเตล็ด

อีกทั้งการเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิเป็นผลมาจากการลงทุนในเครื่องจักรเพื่อเพิ่มกำลังการผลิต และลดต้นทุนเชื้อเพลิง รวมถึงผลจากการรีไฟแนนซ์ภาระหนี้จากสถาบันการเงินเดิมไปยังสถาบันการเงินใหม่ ซึ่งมีเงื่อนไขการสนับสนุนที่ดี ทำให้กิจการมีต้นทุนทางการเงินลดลง และส่งผลให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น

นายประทีป กล่าวว่า สำหรับเป้าหมายการเติบโตของรายได้ปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 10% หรือมีรายได้รวมไม่ต่ำกว่า 450 ล้านบาท ทังนี้ คาดว่าธุรกิจผลิตและจำหน่ายอิฐมวลเบามีแนวโน้มการเติบโตในเกณฑ์ดีอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นผลจากการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐที่จะเกิดขึ้นในอนาคต กระตุ้นให้เกิดการขยายตัวของภาคก่อสร้าง อสังหาริมทรัพย์ ในประเทศ และเกิดความต้องการในตลาดที่เพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งยังมีโอกาสในการขยายตลาดเข้าสู่ประเทศในกลุ่ม AEC ที่จะมีการลงทุนในโครงการรูปแบบต่างๆ อีกเป็นจำนวนมากในช่วงต่อจากนี้

สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2558 ของบริษัทยังคงมุ่งเน้นความเป็นผู้นำด้านคุณภาพของผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบสนองความต้องการใช้งานของกลุ่มลูกค้า นอกจากนี้ จะมีการขยายตัวแทนจำหน่าย และลูกค้าโครงการเพิ่มมากขึ้น ตลอดจนพัฒนาระบบการกระจายสินค้าให้ครอบคลุมพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศได้อย่างทั่วถึง ซึ่งจะเป็นการเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน และโอกาสในการขายให้แก่บริษัท


กำลังโหลดความคิดเห็น