xs
xsm
sm
md
lg

PF เปลี่ยนใช้เงินสดซื้อ TPROP ปี 58 เปิด 24 โครงการ 2.9 หมื่นล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ฉลอง 30 ปี PF บอร์ดบริหารมีมติให้ใช้เงินสดกว่า 1,800 ล้านบาทเศษ เข้าซื้อหุ้น TPROP หลังเจรจาแลกหุ้นไม่ได้ข้อสรุป มั่นใจทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ TPROP ได้ทันทีหลังประชุมผู้ถือหุ้น เม.ย.นี้ พร้อมเดินหน้าขยายการลงทุนทั้ง ที่อยู่อาศัย คอนโดในเขตซีบีดี และโรงแรม เผยแผนปี 58 เปิดโครงการใหม่ 24 โครงการ รวมมูลค่า 29,500 ล้านบาท วางเป้าขาย 18,000 ล้าน ในส่วนรายได้หลังเข้าซื้อกิจการไทย พร็อพเพอร์ตี้ และแกรนด์ แอสเสท สำเร็จ คาดจะรับรู้รายได้รวม 20,000 ล้าน และเพิ่มเป็น 30,000 ล้าน ใน 3 ปีข้างหน้า

นายชายนิด อรรถญาณสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ PF กล่าวว่า คณะกรรมการบริหารมีมติเมื่อวันที่ 26 ก.พ.58 เกี่ยวกับการเข้าซื้อกิจการของบริษัท ไทย พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ TPROP โดยให้เปลี่ยนแปลงวิธีการชำระเงินสำหรับการซื้อกิจการ TPROP โดยจะชำระเป็นเงินสดแทนการออกหุ้นเพิ่มทุนเพื่อไปแลกหุ้นของ TPROP โดยจะใช้เงินสดภายในบริษัท เงินสินเชื่อจากสถาบันการเงิน และเงินเพิ่มทุนโดยวิธีให้สิทธิแก่ผู้ถือหุ้นเดิม (Rights Offering) ในอัตราส่วน 3 หุ้นเดิม : 1 หุ้นใหม่ ที่ราคาจองซื้อหุ้นละ 1 บาท โดยคาดว่าจะสามารถทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ของ TPROP ได้ทันทีหลังที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 23 เม.ย.58 มีมติอนุมัติในเรื่องดังกล่าว

ทั้งนี้ การซื้อหุ้นทั้งหมดของ TPROP โดยชำระค่าหุ้นด้วยเงินสดดังกล่าวนั้น บริษัทจะยังคงซื้อในราคาหุ้นละ 0.57 บาทด้วยวิธีการทำคำเสนอซื้อโดยความสมัครใจ (Voluntary Tender Offer) โดยมีเงื่อนไขว่าภายหลังจากเสร็จสิ้นคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ ผู้ถือหุ้น TPROP จะตอบรับคำเสนอซื้อรวมกันไม่น้อยกว่า 75% ของจำนวนหลักทรัพย์ที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ TPROP และหากการเข้าซื้อกิจการ TPROP เป็นผลสำเร็จ จะทำให้บริษัทฯ เข้าไปมีอำนาจควบคุมอย่างมีนัยสำคัญโดยอ้อม (Chain Principle) ในบริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ Grand ส่งผลให้บริษัทฯ มีหน้าที่เข้าทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ Grand โดยจะมีค่าตอบแทนเป็นเงินสดในราคาหุ้นละ 1.29 บาท (เป็นราคาหลังจากจ่ายปัผลเป็นหุ้นแล้ว)

“ในการเข้าซื้อหุ้น TPROP นั้น คาดว่าจะใช้เงินสดประมาณ 1,800 ล้านบาทเศษ ส่วนในการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ Grand โดยจะมีค่าตอบแทนเป็นเงินสดในราคาหุ้นละ 1.29 บาท คาดว่าจะใช้เนประมาณ 2,200ล้านบาทเศษ”

สำหรับประโยชน์ของธุรกรรมใหม่นี้ นอกจากจะกำหนดระยะเวลาการเข้าทำธุรกรรมได้แล้ว ยังไม่มีผลกระทบต่อการลดลงของสัดส่วนการถือหุ้น (Control Dilution) มีเพียงผลกระทบต่อราคาหุ้น PF เพียงเล็กน้อยเท่านั้น (Price Dilution) จากการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม ผลจากการซื้อกิจการ และเพิ่มทุนครั้งนี้จะทำให้ประมาณการมูลค่าสินทรัพย์รวมของบริษัทฯ ณ สิ้นปี 58 เพิ่มขึ้นเป็นราว 43,500 ล้านบาท และมีผลให้ส่วนของผู้ถือหุ้น เป็น 16,500 ล้านบาท ในขณะที่ภาระหนี้สินที่มีดอกเบี้ยสิทธิต่อทุนของบริษัทลดลงเหลือ 1.20 เท่า การเข้าซื้อกิจการยังจะช่วยเพิ่มความสามารถในการทำกำไร และเพิ่มความมั่นคงของกระแสรายได้ของบริษัทฯ ในอนาคตด้วย

นายชายนิด กล่าวถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจ ปี 58 ว่า บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 24 โครงการ รวมมูลค่า 29,500 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการแนวราบ 20 โครงการ มูลค่า 25,000 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 3 โครงการ มูลค่า 3,000 ล้านบาท และโครงการบ้านพักตากอากาศที่เขาใหญ่ 1 โครงการ มูลค่า 1,500 ล้านบาท โดยจะเปิดตัวในครึ่งปีแรก 13 โครงการ และในครึ่งปีหลังอีก 11 โครงการ ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้ายอดขายในปี 58 ไว้ที่ 18,000 ล้านบาท รวมการขายที่ดินเปล่า ในส่วนของรายได้คาดว่าจะมีรายได้รวม 20,000 ล้านบาท ซึ่งจะมาจากการดำเนินงานของ PF 18,000 ล้านบาท และรายได้จากกิจการของ TPROP และ Grand อีก 2,000 ล้านบาท

สำหรับปีนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของบริษัทฯ ในการจัดวางโครงสร้างการลงทุนที่ครอบคลุมทั้งธุรกิจพัฒนาอสังหาฯ และธุรกิจโรงแรม ภายหลังจากการเข้าซื้อกิจการ TPROP และเข้าไปมีอำนาจควบคุมโดยอ้อมใน Grand เป็นผลสำเร็จ โดยบริษัทมีแผนจะขยายการลงทุนใน Grand เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นหนึ่งในแผนที่จะทำให้ใน 3 ปีข้างหน้า บริษัทจะมีรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 30,000 ล้านบาท

โดยในส่วนของธุรกิจโรงแรมนั้น บริษัทมีแผนขยายการลงทุนในธุรกิจโรงแรมเพิ่มเป็น 1,500 ห้องพัก รวมทั้งยังมีแผนเจาะตลาดคอนโดในเขตซีบีดีเพิ่มอีกปีละ 1-2 โครงการ ขณะเดียวกัน ยังมีแผนพัฒนาโครงการแบบมิกซ์ยูส เป็นที่อยู่อาศัย และโรงแรม หรือรีสอร์ตในเมืองท่องเที่ยว ได้แก่ พัทยา หัวหิน ภูเก็ต และกระบี่ ซึ่งจะทำให้ Grand มีรายได้ ทั้งจากธุรกิจอสังหาฯ และมีรายได้ประจำจากธุรกิจโรงแรมด้วย

ปัจจุบัน Grand มีธุรกิจโรงแรม 4 แห่ง รวม 930 ห้องพัก ได้แก่ เดอะ เวสทิน แกรนด์ สุขุมวิท, เชอราตัน หัวหิน รีสอร์ท แอนด์ สปา, เชอราตัน หัวหิน ปราณบุรี วิลล่า และ ไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง และยังมีคอนโดมิเนียมในเขตซีบีดีอีก 2 โครงการ คือ ไฮด์ สุขุมวิท ซึ่งอยู่ระหว่างการโอนกรรมสิทธิ์ และโครงการใหม่ ไฮด์ สุขุมวิท 2

ทั้งนี้ วิสัยทัศน์ของบริษัทในการดำเนินธุรกิจเน้นให้ความสำคัญในเรื่องสภาพแวดล้อม เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืนของผู้อยู่อาศัย และยังคงตอกย้ำความตั้งใจในการส่งมอบที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพให้แก่ลูกค้า และในโอกาสครบรอบ 30 ปี บริษัทยังเน้นแนวคิดด้านสิ่งแวดล้อม โดยการนำเสนอบ้าน “Eco Cool” นวัตกรรมการอยู่อาศัยที่ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยแนวคิการออกแบบ Eco Design บวกกับการเลือกใช้วัสดุกันความร้อน และวัสดุทดแทนวัสดุธรรมชาติ ตลอดจนความร่วมมือกับ “SCG” ในการนำเทคโนโลยี Active Air Flow มาใช้ ซึ่งช่วยลดความร้อน และเพิ่มการระบายความร้อนออกจากตัวบ้าน ทำให้อยู่สบาย และช่วยประหยัดพลังงานจากการใช้เครื่องปรับอากาศได้ถึงปีละ 16-20% ซึ่งบ้าน “Eco Cool” จะเปิดตัวในไตรมาส 2 นี้

นอกจากนั้น ยังมีการพัฒนาพื้นที่ส่วนกลาง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกรูปแบบใหม่ๆ เช่น สระว่ายน้ำแบบลอยฟ้า ศาลาพักผ่อนกลางน้ำ เลนจักรยานภายในโครงการ เป็นต้น รวมถึงความร่วมมือกับ “AIS” ผู้นำด้านโทรคมนาคมในการพัฒนา “Perfect Digital Village” ด้วยบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านโครงข่ายใยแก้วนำแสงไปถึงบ้านและคอนโดมิเนียม และบริการฟรี Wifi ในพื้นที่ส่วนกลางของโครงการด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น