ธปท. เตรียมหารือ กนง. วันที่ 11 มี.ค.นี้ กังวลตัวเลขการบริโภคภาคเอกชนเดือน ม.ค.ฟื้นช้า และต่ำกว่าที่คาดไว้ ชี้กำลังซื้อหายเพราะถูกบั่นทอนจากภาระหนี้ครัวเรือนที่สูง และรายได้ที่ตกต่ำ ขณะเดียวกัน อาจมีการทบทวนตัวเลขการส่งออกหลังตัวเลข ศก. เดือน ม.ค. โตต่ำกว่าที่คาดไว้
นางรุ่ง มัลลิกะมาส ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แถลงตัวเลขเศรษฐกิจเดือนมกราคม 2558 โดยระบุว่า การฟื้นตัวเป็นไปอย่างช้าต่ำกว่าที่ ธปท. คาดการณ์ โดยเฉพาะการบริโภคการใช้จ่ายภาคเอกชนยังไม่ฟื้นตัวตามความเชื่อมั่นของครัวเรือนที่ยังกังวลเกี่ยวกับรายได้อนาคต และหนี้ครัวเรือน สะท้อนดัชนีการบริโภคภาคเอกชนยังทรงตัวที่ 108.5 ซึ่งเมื่อดูรายละเอียด พบว่า หมวดสินค้าไม่คงทน และสินค้าคงทนยังหดตัว กำลังซื้อถูกบั่นทอนจากภาระหนี้ครัวเรือนที่สูง และรายได้เกษตรกรตกต่ำตามราคาผลผลิต ทำให้ประชาชนไม่ใช้จ่ายแม้ราคาน้ำมันลดลง ส่วนใหญ่เก็บออม เพราะไม่มั่นใจว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัว ซึ่งการบริโภคที่ฟื้นตัวช้าจะนำเข้าหารือในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งหน้า วันที่ 11 มีนาคม 2558 นี้ เพื่อพิจารณาว่า นโยบายการเงินควรผ่อนคลายมากขึ้นหรือไม่
ส่วนการลงทุนภาคเอกชนระวังการใช้จ่ายทรงตัวต่อเนื่อง สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจปัจจุบันอยู่ที่ 49 ต่ำกว่าระดับ 50 ภาคธุรกิจผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค ยานยนต์ เครื่องนุ่งห่ม อสังหาริมทรัพย์ รอการฟื้นตัวของอุปสงค์ในประเทศ ส่วนธุรกิจโทรคมนาคม พลังงานทางเลือก รับเหมา รอการประมูล และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐ
ด้านการส่งออกสินค้ามีมูลค่าลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 2.6 ตามราคาสินค้าส่งออกหลายหมวด เช่น ปิโตรเลียม ยางพารา และเคมีภัณฑ์ ที่ปรับลดลงต่อเนื่องจากทิศทางราคาน้ำมันดิบ การชะลอตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าโดยเฉพาะจีน และกลุ่มประเทศอาเซียน รวมทั้งการตัดสิทธิประโยชน์ทางภาษีศุลกากร (จีเอสพี) ทุกสินค้าประเทศยุโรป ซึ่ง ธปท.เชื่อว่าการส่งออกไทยทั้งปีจะไม่ถึงขั้นถดถอย แต่ยอมรับว่า ต้องมีการปรับประมาณการใหม่จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัวได้ร้อยละ 1
ส่วนการใช้จ่ายของรัฐบาลพบว่า มีการเบิกจ่ายน้อยกว่าที่คาดการณ์ โดยตั้งแต่เดือนตุลาคม-ธันวาคม 2557 มีการเบิกจ่ายเพียงแค่ร้อยละ 13.1 ซึ่งต่ำกว่าปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะต้องมีการเร่งรายจ่ายด้านการลงทุน อย่างไรก็ตาม เดือนมกราคมต่อเนื่องมาถึงกุมภาพันธ์ตัวเลขภาคการท่องเที่ยวขยายตัวได้ดี โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 18 เนื่องจากนักท่องเที่ยวจีน และมาเลเซียมาเที่ยวไทยในช่วงเทศกาลตรุษจีน ดังนั้น ภาคการท่องเที่ยวจึงเป็นความหวังหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยปีนี้
