xs
xsm
sm
md
lg

MK โชว์ 57 กำไรโตสวนกระแสเศรษฐกิจซบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ชวน  ตั้งมติธรรม
เผยยอดรับรู้รายได้จากการขายและบริการในไตรมาส 4/2557 จำนวน 742.51 ล้านบาท ทำให้รายได้ทั้งปีเป็น 2,346.89 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิไตรมาส 4/2557 โต 44.97% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และกำไรสุทธิทั้งปีเป็น 447.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.38% คิดเป็น 0.52 บาทต่อหุ้น ฉุดอัตราส่วนกำไรสุทธิ (Net Profit Margin) ในปีนี้เท่ากับ 18.76% สูงขึ้นจากปีที่ผ่านมา

นายชวน ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) หรือ MK ผู้พัฒนาโครงการ “ชวนชื่น” และ “สิรีนเฮ้าส์” เปิดเผยว่า บริษัทฯ รับรู้รายได้จากการขายและบริการในไตรมาสสุดท้ายของปี 2557 จำนวน 742.51 ล้านบาท เติบโต 10.11% จากไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ที่ 674.32 ล้านบาท และใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ที่ 739.57 ล้านบาท รวมผลประกอบการประจำปี 2557 บริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้จากการขายและบริการรวม 2,346.89 ล้านบาท ลดลง 14.96% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ เนื่องจากในปี 2557 บริษัทฯ รับรู้รายได้จากคอนโดมิเนียมน้อยกว่าในปี 2556 ถึง 841.11 ล้านบาท หากไม่รวมคอนโดมิเนียมแล้ว บริษัทฯ รับรู้รายได้จากโครงการบ้านจัดสรร เพิ่มขึ้น 432.44 ล้านบาท คิดเป็น 23.68% โดยโครงการหลักที่สร้างรายได้ในปีนี้ ได้แก่ ชวนชื่นโมดัส วิภาวดี, ชวนชื่น จรัญฯ 3, ไพรเวท พาร์คและเบลล์พาร์ค ชวนชื่น ซิตี้

ในปี 2557 บริษัทฯ มีกำไรเบื้องต้น 955.27 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนกำไรเบื้องต้น (Gross Profit Margin) 40.70% เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา ซึ่งมีอัตราส่วนกำไรเบื้องต้น 34.40% สาเหตุหลักมาจากปีที่แล้วมีการรับรู้รายได้จากคอนโดมิเนียม ซึ่งมีกำไรเบื้องต้นต่ำกว่าบ้านเดี่ยว ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารในปีนี้อยู่ที่ 417.69 ล้านบาท ลดลงจาก 430.80 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขาย (SG&A to sales) ปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาจาก 15.61% เป็น 17.80% เนื่องจากฐานรายได้ที่น้อยลง

หลังจากหักดอกเบี้ยและภาษีแล้ว บริษัทฯ มีกำไรสุทธิประจำไตรมาส 4/2557 จำนวน 168.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44.97% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา กำไรสุทธิประจำปี 2557 เท่ากับ 447.33 ล้านบาท คิดเป็น 0.52 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 4.38% จาก 428.56 ล้านบาท ในปีที่ผ่านมา ส่งผลให้อัตราส่วนกำไรสุทธิ (Net Profit Margin) ในปีนี้เท่ากับ 18.76% สูงขึ้นจากอัตรา 15.32% ในปีที่ผ่านมา

ในส่วนของสินทรัพย์เพิ่มขึ้น 578.63 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา จาก 6,782.62 ล้านบาท เป็น 7,361.25 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯ ได้ลงทุนเพิ่มขึ้นในการพัฒนาโครงการ ดังจะเห็นได้จากมูลค่าโครงการอสังหาริมทรัพย์ระหว่างพัฒนา เพิ่มขึ้น 677.67 ล้านบาท สำหรับหนี้สินปรับตัวเพิ่มขึ้น 388.60 ล้านบาท จาก 1,502.79 ล้านบาท เป็น 1,891.39 ล้านบาท จากการกู้ยืมเงิน ทั้งนี้ เงินกู้ระยะสั้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 80.17 ล้านบาท เป็น 430 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯ ได้กู้ยืมเงินโดยการออกตั๋วเงินระยะสั้น (B/E) เนื่องมีจากต้นทุนที่ต่ำกว่าการกู้จากสถาบันการเงิน อย่างไรก็ดี หนี้สินหมุนเวียนมิได้เพิ่มขึ้นแต่กลับลดลง 409.60 ล้านบาท เนื่องจากเงินกู้ระยะยาวที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปี ลดลง 746.67 ล้านบาท ทดแทนด้วยการเพิ่มขึ้นของเงินกู้ระยะยาวในส่วนของหนี้สินไม่หมุนเวียนซึ่งเพิ่มขึ้น 805.84 ล้านบาท สำหรับส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้น 190.03 ล้านบาท จากสิ้นปีที่ผ่านมา อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) ณ สิ้นปี 2557 จึงปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 0.28 เท่าเมื่อสิ้นปี 2556 เป็น 0.35 เท่า ณ สิ้นปี 2557

จากการที่บริษัทฯ ใช้จ่ายเงินเพื่อจัดหาที่ดินเพิ่มรวมถึงการพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่อง ทำให้กระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินการงานเป็นลบ (226.15) ล้านบาท จากที่เคยเป็นบวกในปีที่ผ่านมา และจากการกู้ยืมเงินเพื่อนำมาใช้พัฒนาโครงการ ทำให้กระแสเงินสดจากกิจกรรมจัดหาเงินเป็นบวก 100.25 ล้านบาท จากเดิมที่ลบ (1,085.73) ล้านบาท บริษัทฯ จึงมีเงินสดสุทธิเป็นลบ (148.50) ล้านบาท สำหรับปี 2557


กำลังโหลดความคิดเห็น